วันนี้ (16 ต.ค.2567) นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกของ บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ที่ บริเวณถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน
หลังจากวานนี้ (15 ต.ค.) ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข พร้อมเลขาธิการแพทยสภา ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ นายเอก เป็นอีกบุคคลหนึ่งในระดับแม่ทีมที่ร่วมลงทุนทำธุรกิจ กับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นระดับแม่ทีม มีการแอบอ้างตัวเองเป็นแพทย์ เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์
จากการตรวจสอบพบว่า นายเอกเรียนจบเทคนิคการแพทย์ แต่ไม่ได้จบแพทย์เวชกรรม จึงไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้โดยตรง
สำหรับการตรวจค้นในวันนี้ จะมีการตรวจสอบว่า คลินิกเปิดอย่างถูกต้องหรือไม่ ผลิตภัณฑ์ ยา และอุปกรณ์ ต่าง ๆ ถูกต้องตามหลักการแพทย์หรือไม่ ทันทีที่มาถึงพบว่า คลินิกปิดให้บริการ
เบื้องต้นทราบว่า คลินิกมีใบอนุญาตเปิดสถานประกอบการอย่างถูกต้อง ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว และนายเอกเองไม่มีรายชื่อในแพทยสภาจึงไม่ถือว่าเป็นแพทย์
เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ภายในคลินิกมีบุคคลอย่างน้อย 5 คน ได้กระทำลักษณะให้บริการคล้ายแพทย์ ส่วนนี้จึงต้องตรวจสอบว่า ผู้ให้บริการและผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้กับผู้ที่มารับบริการได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่
นอกจากนี้ยังอยากให้นายเอกประสานเข้าพบพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่โดยหากยังหลบหนี ขั้นตอนต่อไปทางตำรวจจะมีการออกหมายเรียกและหมายจับ
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า กรณีที่พบบุคคลแอบอ้างว่าเป็นแพทย์ จะมีความผิดต่อวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งจะต้องโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับถือว่าเป็นโทษรุนแรง และหากมีการประกอบวิชาชีพในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วยนั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
หากแสดงตนว่า เป็นผู้ดำเนินการ จะมีโทษจำคุกอีก 5 ปี ฉะนั้น จึงขอเตือนว่า หากไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์จริง อย่าให้บริการทางการแพทย์ หรือแสดงตนให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด เนื่องจากมีโทษที่ร้ายแรงตามกฎหมาย
สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า หากยังคงเห็นบุคคลแต่งกาย ทำพฤติกรรมคล้ายกับตัวเองเป็นแพทย์แล้ว ชักชวนให้เกิดการร่วมลงทุน จนมีคนเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง เชื่อว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นคนมีความรู้ความสามารถ จนเกิดความเสียหาย การกระทำนั้นถือ ว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นและ บุคคลผู้นั้นจะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งประชาชนสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันที
เบื้องต้นได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายเอก ในข้อหาเกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
อ่านข่าว :
สคบ. เรียก "บอสพอล" ชี้แจงปม "ดิไอคอนกรุ๊ป"