วันนี้ (15 ต.ค.2567) อีก 10 วัน คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อปี 2547 ก็จะหมดอายุความ แต่วันนี้โจทก์ซึ่งเป็นครอบครัวผู้สูญเสียจากการสลายการชุมนุม 48 คนพร้อมญาติ ก็ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนราธิวาสตามนัดของศาล และติดตามความคืบหน้าในการควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ 7 คน ซึ่งศาลได้ออกหมายจับไปตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. หลังชาวบ้านได้รวมตัวยื่นฟ้องในคดีนี้เอง โดยหลายคนยังคงมีความหวังว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดจะยอมมอบตัว และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่รอคอยมาเกือบ 20 ปี
อ่านข่าว : "พล.อ.พิศาล" ผู้ต้องหาคดีตากใบ ลาออก สส.เพื่อไทยแล้ว
ด้านผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า การติดตามผู้ที่ถูกออกหมายจับล่าช้า และไม่ชัดเจน จึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชาวบ้าน โดยเฉพาะการติดตาม พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ สส.พรรคเพื่อไทย
แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีรายงานว่าได้มีการประสาน เพื่อขอให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ อินเตอร์โพล ออกหมายแดงกับ พล.อ.พิศาล ที่ได้ออกจากประเทศไทยไปยังประเทศอังกฤษ โดยให้เหตุผลในการลาออกสภาผู้แทนราษฎรว่าไปรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจน และในเว็บไซต์ของอินเตอร์โพล ก็ยังไม่ปรากฏชื่อ
ส่วนนายศิวะ แสงมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเลยที่ 8 พบว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ก่อนถูกออกหมายจับ ซึ่งโดยปกติแล้วการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นไม่ต้องขอวีซ่า แต่อาศัยต้องไม่เกิน 15 วัน ซึ่งขณะนี้ได้เลยกำหนดแล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐานการเดินทางกลับไทย จึงยังไม่ชัดเจนว่า ยังอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแบบเกินระยะวีซา หรือ เดินทางไปอีกประเทศแล้ว
ส่วนการติดตามบุคคลอื่นๆ ในประเทศ ทั้งนายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่บ้านใน จ.นครศรีธรรมราช หรือ พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ ผู้ควบคุมขบวนรถ ที่ จ.ชุมพร ล้วนไม่พบตัว จึงอยากให้รัฐจริงใจในการปฏิบัติงานมากกว่านี้
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ยังระบุว่า เท่าที่ทราบข้อมูลพบว่า 3 ใน 8 ผู้ต้องหา ที่ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ออกหมายจับตามคำสั่งฟ้องของอัยการสูงสุด พบว่า ยังคงรับราชการ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่เร่งรัดและติดตามจับกุมตัวจริง ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก จึงอยากให้เวลาที่เหลือก่อนคดีจะหมดอายุความ ให้เจ้าหน้าที่ทำงานแบบจริงใจ เพื่อนำตัวบุคคลเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการศาลให้ได้
อ่านข่าว :
