วันนี้ (12 ต.ค.2567) จากกรณีประเด็นธุรกิจขายตรงของบริษัทชื่อดัง ที่มีนักแสดงชื่อดังหลายคนเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งบางคนยังมีตำแหน่งหรือที่เรียกกันว่า "บอส" และผู้เสียหายจากการร่วมลงทุนธุรกิจขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าวเป็นกลุ่มใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลส่วนหนึ่ง ยอมรับ เชื่อมั่นดารา ที่เป็นทั้งพรีเซนเตอร์ ถูกระบุในสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ว่ามีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการส่วนงานต่างๆ มีคำพูดลักษณะโน้มน้าว ทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจเข้าร่วม
อ่านข่าว : เตรียมออกหมายจับ " 3 บอส" ดิไอคอน-สอบเส้นทางเงิน
โดยวันนี้ เวลา 14.00 น. นายกันต์ กันตถาวร ที่มีชื่อเป็นระดับผู้บริหารของบริษัท เตรียมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมโพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ จนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ และพร้อมให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงาน เพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่ นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ชี้แจงผ่านรายการโทรทัศน์ ว่าเมื่อปี 2563 นายวรัตน์พล ติดต่อมา ให้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าโปรตีน สัญญา 1 ปี เมื่อครบตามสัญญา 1 ปี ก็เว้นไป ไม่ได้ต่อสัญญา จนปี 2565 ต่อสัญญาอีกครั้ง เป็นพรีเซนเตอร์กาแฟ โดยเป็นสัญญาแบบปีต่อปี
อ่านข่าว : เปิดใจ "มิน-พีชญา" ปัดโยงธุรกิจดิไอคอน-รับค่าจ้างแค่พีอาร์
ปปง.สอบที่มาทรัพย์สิน เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่
นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่าหลังจากได้รับหนังสือจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ให้ตรวจสอบที่มาของทรัพย์สิน บอสพอล และดิไอคอนกรุ๊ป ว่าการได้มาซึ่งทรัพย์สินต่างๆ เข้าข่ายการฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ได้หรือไม่ ตอนนี้ ปปง.ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลักฐานที่ได้มาจาก บก.ปคบ. โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีความชัดเจน
เบื้องต้นตอนนี้มีมูลค่าความเสียหาย ที่ทางตำรวจ ปคบ. ได้แจ้งมาทั้งจำนวนผู้เสียหายและจำนวนเงินที่ได้รับคำร้องทุกข์ คือ 90 คน มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ซึ่งเป็นประเด็นนี้ ปปง. จะต้องช่วยกันตรวจสอบอย่างเข้มข้น
หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ปปง.จะต้องไปสืบทรัพย์สิน ว่าได้มาอย่างไร และออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว
ส่วนประเด็นที่ที่กลุ่มผู้เสียหายกังวลว่าจะมีการจำหน่าย ยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่ได้มาจากการถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดนั้น ยืนยันว่าตามกฎหมายอาญา แม้จะมีการโยกย้ายถ่ายเท เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและอายัดได้ หากเข้าข่ายคดีฟอกเงิน
กมธ.ปปง. ชี้ ดาราเอี่ยว "ดีไอคอน" อาจมีความผิด
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด หรือ ปปง. เปิดเผยว่าวันพุธที่ 16 ต.ค.นี้ จะนำเรื่องการประกอบธุรกิจของ ดิไอคอน เข้าหารือในที่ประชุม เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ก่อนจากนั้นจะพิจารณาเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารดิไอคอน มาชี้แจงหรือไม่
เบื้องต้นจากโมเดลธุรกิจ อาจมีลักษณะเหมือนแชร์ลูกโซ่ แต่ในข้อเท็จจริงก็มีสินค้าจำหน่ายจริง จึงดูที่ประเด็นการฉ้อโกง ทั้งจากกรณีการใช้คนมีชื่อเสียงมาเป็น พรีเซนเตอร์ หรือเป็นผู้บริหาร สร้างแรงจูงใจ ทำให้ข้อเท็จจริงผิดไปหรือไม่
แม้จะชี้แจงว่าเป็นพรีเซนเตอร์อย่างเดียว แต่ก็ต้องดูเจตนา เนื่องจาก ดาราถือเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนสนใจ มีความเชื่อถือ ข้อมูลการนำเสนอ อาจมีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชนได้เหมือนกัน
ทนาย มองเจตนา "รู้โมเดลธุรกิจ - รับส่วนแบ่ง" อาจมีส่วนรู้เห็น
นายพีรภัทร ฝอยทอง ทนายความ และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการเงินและการธนาคาร อธิบายว่า ถ้าบริษัทผิดจริง ก็ต้องดูรายละเอียดว่าดารา นักแสดง มีส่วนรู้เห็นถึงโมเดลธุรกิจหรือไม่ รวมทั้งต้องตรวจสอบเส้นเงิน ที่ยืนยันได้รับแค่ค่าพรีเซนเตอร์อย่างเดียวจริงหรือไม่ แม้จะมองว่าเป็นดาราอาจโดนหลอกได้ แต่ถ้าดาราไปช่วยสร้างธุรกิจก็อาจมีส่วนต้องรับผิดชอบ
อ่านข่าว :