"กัญจนา" ย้ายด่วนช้างขุนเดช-ดอกแก้ว ไม่ขอคุย "แสงเดือน"

กระแสดราม่าปมช้าง 2 เชือกพังพลายฟ้าใส-พังพลอยทอง ช้างตาบอด 2 เชือกของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จมน้ำตาย หลังจากแม่น้ำแตงหลากเข้าท่วมพื้นที่จนทำให้ต้องระดมคนเข้าอพยพช้าง 126 เชือกด้วยความทุลักทุเล จนเกิดกระแสดรามา

• ดรามา! ปมช้างจมน้ำตาย-ช้างเลี้ยงคน-คนเลี้ยงช้าง
• ยัน 2 ซากช้างชื่อ "พลอยทอง" ช้างตาบอด "พังฟ้าใส" จมน้ำตาย

วันนี้ (9 ต.ค.2567) เพจเฟซบุ๊กของแสงเดือน ชัยเลิศ-Saengduean Chailert โพสต์ข้อความว่า 

มีช้างตัวผู้ 2 เชือก ชื่อพลายขุนเดช และพลายดอกแก้ว ที่คุณหนูนาเอามาฝากเลี้ยงไว้หลายปี ถ้าคุณหนูนา สงสารและเป็นห่วงเขาจริง ๆขอช่วยมาย้ายพวกเขาไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยด่วน 

ทั้งนี้ ภายหลังข้อความถูกเผยแพร่ออกมาพบว่า น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา  ประ ธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ออกมาโพสต์ข้อความทันทีว่า ว่าด้วยช้าง 2 เชือกที่เกี่ยวพันกับดิฉัน ที่อยู่ที่ปางคุณเล็ก 

เชือกแรก ขุนเดช น้องเป็นช้างป่า ที่ถูกบ่วงแร้วนายพรานรัดข้อจนเป็นแผลใหญ่บวม ทำให้เดินไม่ปกติ และไปเจอเมื่อปี 2557 ที่ส่วนสัตว์ป่า ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน น้องถูกเลี้ยงอยู่เชือกเดียวน่าสงสารมาก

ช่วงนั้นเป็นปีแรกที่ดิฉันได้รู้จักคุณเล็ก และชื่นชมคุณเล็กมาก ดิฉันวิ่งเต้นทำเรื่องขออธิบดีอุทยานพาขุนเดชไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก จนสำเร็จตอนที่แรกเจอขุนเดช อายุประมาณ 4 ปีตอนนี้น้องก็คง 14  

สวนเชือกที่ 2 ดอกแก้ว เจอดอกแก้วที่โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาล จ. ลำปาง น้องมากับแม่ แม่น้องป่วยหนักคือเหมือนมดลูกหลุดจากช่องคลอดมาครึ่งหนึ่ง ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ดอกแก้วตอนนั้นอายุสองเดือนคลอเคลียอยู่กับแม่ตลอด

ทั้งนี้ขอบคุณคุณเล็กมากที่ตลอดเวลาได้เลี้ยงดูขุนเดช และดอกแก้วให้แต่ดิฉัน ก็ไม่ได้ไปฝากเฉย ๆ ในช่วงปีแรกที่ดิฉันไปหาคุณเล็กบ่อยๆนั้น ดิฉันได้สนับ สนุนคุณเล็กอย่างที่ในชีวิต แม้จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยให้ใครเท่านี้มาก่อนเพราะรักคุณเล็กมาก

ดิฉันต้องขอบคุณเล็กอีกครั้ง สำหรับการดูแลขุนเดช และดอกแก้ว
คุณเล็กให้ไปรับโดยเร็วดิฉันกำลังจะไปรับทั้งคู่มา

ประสานขอรับช้าง 2 เชือกวันนี้ 

ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ น.ส.กัญจนา ระบุว่า ขณะนี้ได้ประสานขอรับพลายขุนเดช และพลายดอกแก้ว ออกจากการดูแลของ น.ส.แสงเดือน ซึ่งพูดคุยกับ นายธีรภัทร ตรังปราการ เจ้าของปางช้าง Patara Elephant Conservation ปางช้างภัทรฟาร์ม และนายสัตวแพทย์ ทวีโภค อังควานิช ศูนย์อนุรักษ์ช้างลำปาง สถาบันคชบาลแห่งชาติ จะเข้าไปเคลื่อนย้ายช้างทั้ง 2 เชือกก่อน

โดยดอกแก้ว จะให้อยู่ที่ปางช้างภัทรฟาร์ม ส่วนขุนเดช จะต้องไปอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างลำปาง เนื่องจากเป็นช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้าง ต้องมีการทำเอกสาร และเคยคิดอยู่แล้วว่ามาถึงจุดนี้ที่ให้เอาช้างที่ฝากเลี้ยงคืนกลับมา

คำว่าแตกหัก แค่แนวคิดไม่ตรงกัน และยืนยันว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในธุรกิจช้าง มีแต่เสียเงินช้าง ไม่มีรายได้จากช้าง และความเป็นอยู่ของตัวเอง ไม่ได้อาศัยเงินจากช้าง และจบแล้ว 

อ่านข่าว ภารกิจหิน อพยพ "ช้าง" หนีน้ำท่วมแม่แตง เชียงใหม่

น.ส.กัญจนา กล่าวอีกว่า แต่ละปีบริจาคเงินให้ช้างในปางต่างๆ จำนวนมาก เพราะแค่ความรักช้าง โดยไม่เคยมีผลประโยชน์ หรือหาประโยชน์อะไรจากช้างทั้งสิ้น แม้แต่การไถ่ช้างและการให้เงินปางช้าง ที่ต้องรับดูแลช้าง เฉพาะปีนี้มีไถ่ช้างไปแล้ว 9 เชือก และราคาแพงสุดคือกว่า 2 ล้านบาท

ไม่ท้อเฉย ๆ คิดว่าสักวันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้ เราอยู่คนละหมวดหมู่ ส่วนที่จำเป็นต้องยกหูเคลียร์หรือไม่ คิดว่าไม่จำเป็น เพราะครั้งสุดท้ายคือการช่วยประสานให้หลายหน่วยงานเข้าไปช่วยย้ายช้างหนีน้ำท่วม 

จี้ตรวจสอบรายได้ธุรกิจปางช้าง

ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องตรวจสอบเรื่องที่มีถึงมีข้อมูลว่าทางมูลนิธิฯ ยังขายทัวร์จนถึงนาทีที่ทราบว่าน้ำมาแน่นอน หากจะอพยพจริง ๆ ก็น่าจะทันเหมือนปางอื่น ต่อไปควรมีมาตราการขึ้นทะเบียนช้าง มาตราการอพยพ

ส่วนรายได้ของแต่ละปางควรเปิดเผยหรือไม่นั้น นายแทนคุณ ระบุว่า แน่นอนว่าสมควร หากยังปล่อยแบบนี้ไปอาจถูกอาศัยช่องโหว่หาผลประโยชน์ เพราะมีการจดทะเบียนทั้งมูลนิธิ หรือในนามของคนรักสัตว์แต่ความจริงเป็นการหาประโยชน์จากสัตว์ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียหลายด้าน ไม่ใช่แค่เพียงภาพลักษณ์ของประเทศเพียงอย่างเดียว

เมื่อถามว่าควรมีหน่วยงานใดที่จะเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการจัดการปัญหานี้หรือไม่ นายแทนคุณ กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) น่าจะเป็นเจ้าภาพที่ดี ไม่ปล่อยให้เรื่องดรามากลบข้อเท็จจริง ไม่ควรปล่อยให้เวทนามาร์เก็ตติ้งดำเนิน

อ่านข่าว :

สัตวแพทย์ ห่วงเชื้อโรคปนเปื้อน ปมฝัง "ซากช้าง" ใกล้แม่น้ำ

ต่อมาเวลา 16.00 น. น.ส.กัญจนา โพสต์เฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa เป็นภาพขณะที่เคยเล่นกับพลายขุนเดช และดอกแก้ว ซึ่งเป็นภาพตอนที่ยังเปป็นเด็กๆ ก่อนที่จะไถ่และนำไปฝากไว้กับนางแสงเดือน ระบุว่า บางท่านอยากเห็นรูปน้องขุนเดช กับน้องดอกแก้ว ก็จะขอโพสต์

เป็นภาพน้องขุนเดชตอนยังเด็กไม่มีภาพปัจจุบัน ที่ข้อเท้าพันผ้า ส่วนน้องดอกแก้วมีทั้งตอนที่เป็นเด็กที่ดิฉันป้อนนมที่คชบาล และตอนที่โตแล้วที่ปางคุณเล็ก รูปสุดท้าย 

ใดๆ ที่ดิฉันทำ เพราะรักช้างล้วนๆ ไม่เคยมีหน้าที่ใดที่ต้องทำ ไม่เคยได้เงิน ทำเพราะใจรัก