วันนี้ (9 ต.ค.2567) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นสร้างความเชื่อมั่น แก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้า GI เป็นสินค้าสำคัญที่ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียน กระท้อนนาปริกสตูล เป็นสินค้า GI ลำดับ 2 ของจ.สตูลต่อจากสินค้าจำปาดะสตูล และเป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 73,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้กระทรวงมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
สำหรับกระท้อนนาปริกสตูล ถูกปลูกในพื้นที่บ้านนาปริกจ.สตูล นับว่าเป็นแหล่งปลูกกระท้อนที่มีมานานกว่า 30 ปี พื้นที่ใกล้ทะเล มีฝนตกชุกในช่วงฤดูฝน ทำให้มีแหล่งน้ำใต้ดินจำนวนมาก ปริมาณน้ำเพียงพอและมีความชื้นที่เหมาะกับการปลูกกระท้อน ด้วยแหล่งภูมิศาสตร์นี้ประกอบกับกระบวนการปลูกที่พิถีพิถันของเกษตรกร
กระท้อนนาปริกสตูลมีรสชาติที่หวานอร่อย เนื้อหนานุ่ม ปุยหุ้มเมล็ด หนาฟู ไม่เหนียว สามารถรับประทานเนื้อได้จนเกือบถึงเปลือกผล มีความโดดเด่น อัตลักษณ์ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากกระท้อนในพื้นที่อื่นๆ
โดยพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือพันธุ์อีล่า ด้วยผลใหญ่ยักษ์ เปลือกบาง ใช้ช้อนตักกินแบบสบายๆ เนื้อปุยนิ่ม อร่อยกำลังดี อร่อยจนโด่งดัง และมีชื่อเสียงแพร่หลาย
นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ ปุยฝ้าย พันธุ์นิ่มนวล พันธุ์เขียวหวาน และพันธุ์ทับทิม ทั้งนี้ กระท้อนนาปริกสตูลนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจ.สตูล ซึ่งถูกผลักดันให้สินค้าสามารถนำเข้าแข่งขันในตลาดโลกได้ อีกทั้งยังเป็นสินค้าภูมิปัญญาที่มีการถ่ายทอดเทคนิคและวิธีการปลูกจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อคงคุณภาพที่ดีและความเป็นเอกลักษณ์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสร้างรายได้เข้าจังหวัดสตูลและเกษตรกรในพื้นที่ และมีการขยายผลไปสู่การเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน
อ่านข่าว:
ก.อุตฯเล็งใช้ยาแรง สั่ง สมอ. เร่งปราบสินค้านำเข้ามาตรฐานต่ำ
"ทองคำ" ดิ่ง 400 บาท เฟดผ่อนลดดอกเบี้ย เหลือครั้งละ 0.25%
โอกาส-รายได้-ความเสี่ยง ? เรื่องจริงที่ต้องรู้ก่อนเข้าทีม "ขายตรง"