ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปรับแผนล่า “นอมินี” เน้น 6 กลุ่มเสี่ยงสูงทุนเทาฮุบธุรกิจไทย

เศรษฐกิจ
23 เม.ย. 68
15:51
176
Logo Thai PBS
ปรับแผนล่า “นอมินี” เน้น 6 กลุ่มเสี่ยงสูงทุนเทาฮุบธุรกิจไทย
อ่านให้ฟัง
06:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรับแผนตรวจสอบ นอมินี ปี 2568 เน้น 6 กลุ่มที่เสี่ยงสูงต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินีตั้งธุรกิจ ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจที่เกี่ยว

วันนี้ ( 23 เม.ย.2568) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เป็นประจำทุกปีที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะดำเนินการตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือ นอมินี เนื่องจากกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ให้ความสำคัญและได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข และได้แต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ซึ่งในปี 2568 กรมฯ ได้ปรับแผนตรวจสอบนอมินี

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

โดยจะเน้น 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่น่าสงสัยว่าต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยโดยให้คนไทยถือหุ้นแทน ซึ่งถือว่า ผิดกฎหมาย ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป รวม 46,918 ราย

อธิบดีกล่าวว่า จะมีการลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะรายงานผลให้คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานทราบความคืบหน้าเป็นระยะ

สำหรับแผนการตรวจสอบนอมินีประจำปีนี้ ยังรวมถึงการตรวจสอบธุรกิจที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมฯ และธุรกิจที่เป็นกระแสข่าวในปัจจุบันว่าพบกลุ่มคนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมายอาศัยนอมินีคนไทยด้วย เช่น ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แถวพระราม 9 และ กรุงเทพกรีฑา ร้านอาหารย่านห้วยขวาง พระราม 9 และรัชดาภิเษก การตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรในพื้นที่จ.ระยองและจันทบุรี เป็นต้น

การปรับแผนลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่ต้องสงสัยหรืออาจเข้าข่ายนอมินี จะสอดคล้องและควบคู่ไปกับการทำงานของคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน โดยจะบูรณาการการทำงานเชิงรุกร่วมกัน

ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงาน ปปง. ได้ร่วมกันพิจารณายกร่างกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสร็จแล้ว โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเพิ่มเติมให้คนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในธุรกิจที่อยู่ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคนต่างด้าวที่ยอมให้คนไทยกระทำการแทนดังกล่าว ตามมาตรา 36 (ความผิดฐานนอมินี)

และกรณีที่คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 37 เป็นความผิดมูลฐาน ตามร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งจะนำไปสู่การยึด อายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างด้าวให้ตกเป็นของแผ่นดิน เพื่อไม่ให้นำทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ หยุดยั้งการใช้บริษัทนอมินีและคนไทยเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน สร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของระบบธุรกิจในประเทศไทย และป้องกันการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการกระทำความผิด

ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย (https://law.go.th) ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 25 เม.ย. 2568 เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องธุรกิจของคนไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเมื่อสิ้นสุดการรับฟังความคิดเห็นแล้ว สำนักงาน ปปง. จะพิจารณาเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับถัดไป

ทั้งนี้ กรมฯดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดนอมินีที่หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันดำเนินการ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2567 - 31 มี.ค. 2568 รวม 852 ราย มูลค่าความเสียหาย 15,188 ล้านบาท

อ่านข่าว:

 ไขกุญแจ "3 นอมินีชาวไทย" หุ้นส่วนใหญ่ "ไชน่า เรลเวย์ NO 10"

เปิดสายสัมพันธ์ “ชวนหลิง จาง - วู บิงลิน” ผ่าน ไชน่า เรลเวย์ No.10

"ซิน เคอ หยวน" แถลงโต้ ก.อุตฯ ปมเหล็กไร้มาตรฐาน ตึก สตง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง