จากกรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุตกทางพิเศษฉลองรัช จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ต.ค.67) จากการตรวจสอบของไทยพีบีเอส พบว่าเหตุดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อปี 2555 ก็เกิดเหตุขึ้นในจุดเดียวกันนี้ โดยสาเหตุก็ใกล้เคียงกัน คือ ผู้ขับขี่เปลี่ยนช่องทางเดินรถ แบบกระทันหัน จึงมีการตั้งข้อสังเกต ว่า ป้ายบอกทาง ตั้งอยู่ในระยะใกล้ทางแยกเกินไปหรือไม่
บนทางด่วน บริเวณจุดที่รถยนต์พุ่งผ่านช่องทางแยกตัววายตกลงมา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ขับขี่ได้ขับรถมาด้วยความเร็วพอสมควรครับ โดยขับขี่มาบนช่องทางขวา เมื่อถึงทางแยกจะเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ช่องทางซ้าย แต่ไม่พ้นขอบแบบร์ริเออร์ ซึ่งชนเข้าอย่างแรง จนรถยนต์พุ่งตกลงมาด้านล่าง
ส่วนโดยรอบบริเวณพื้นที่ จุดที่รถตกตกลงมา ยังมีเศษชิ้นส่วน ของรถยนต์หลงเหลืออยู่เล็กน้อย ทีมข่าวสำรวจกายภาพทางจุดเกิดเหตุ บนทางด่วนจตุโชติ ด้วยการขับขี่รถไปบนเส้นทางในทิศทางเดียวกันกับรถคันเกิดเหตุ
เมื่อถึงบริเวณใกล้ช่วงทางแยกจะพบว่า ป้ายบอกทางอยู่ค่อนข้างใกล้กลับแยกตัววาย ขณะที่บริเวณแยกตัววาย ไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชนอุปกรณ์ลดแรงกระแทก ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ แต่พบรอยครูดบนขอบทาง ที่แยกตัววายอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นร่องรอยของรถคันเกิดเหตุที่ครูดกับขอบทางก่อนที่รถจะเหิน พลิกตัวลงสู่พื้นด้านล่าง
ตำรวจให้ข้อมูลว่า บนจุดสิ้นสุดขอบทางตัววายเดิมมีแผงกั้นติดตั้งเป็นสัญลักษณ์สิ้นสุดทางเอาไว้ แต่ถูกรถคันเกิดเหตุพุ่งชนหักตกลงไปพร้อมกับรถ
ด้านญาติได้เข้ารับศพผู้เสียชีวิต จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจแล้ว เบื้องต้นผลการตรวจชันสูตรไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด สอดคล้องกับญาติที่ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อวิเคราะห์โดยละเอียด และเพื่อหาแนวทางป้องกัน ลดความเสี่ยการเกิดเหตุซ้ำ
อ่านข่าว : รถบรรทุกเงาะเสียหลักพุ่งตกทางด่วน หญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต
ขับรถย้อนศร! ตกทางด่วนจตุโชติเสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1
กทพ.ชะลอขึ้นค่าทางด่วน "ฉลองรัช-บูรพาวิถี" อีก 6 เดือน