เจ้าหน้าที่ส่งรถบัสของบริษัทที่รถเกิดไฟไหม้ทั้ง 5 คัน ตรวจสอบที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี พบลักลอบติดถังแก๊สเพิ่มซ่อนไว้หลังล้อหน้า นำยางอะไหล่มาปิดทับไว้ ส่วนที่อู่โคราชมีถังแก๊ส 6 ถัง ถูกถอดทิ้งไว้ และมี 3 ถัง ระบุทะเบียนรถตรงกับรถของบริษัทชินบุตร
อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งใน ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่เจ้าหน้าที่ขนส่งฯ และตำรวจ ยึดรถบัส 5 คัน ของบริษัท ชินบุตร บริษัทที่รถเกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อนำไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2567
อ่านข่าว : ขนส่งฯ ยึดรถบัส 5 คันในเครือบริษัทเกิดเหตุไฟไหม้ ที่อู่โคราช
ด้านหน้าอู่พบถังแก๊ส 6 ถัง ในจำนวนนี้ มีถังแก๊ส 3 ถัง ที่มีข้อความเขียนกำกับ ระบุทะเบียนรถ 30-0411 สิงห์บุรี เมื่อตรวจสอบจากทะเบียนรถ พบว่าเจ้าของเป็นคนเดียวกันกับรถบัสคันที่เกิดไฟไหม้ ส่วนอีก 3 ถัง พบว่าข้อความถูกขูดออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2567 ช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในอู่ พบพนักงานกำลังถอดถังแก๊สออกจากรถบัสคันหนึ่ง แต่วันนี้ (4 ต.ค.) ไม่มีคนอยู่ในอู่แม้แต่คนเดียว
การตรวจสอบในอู่ดังกล่าว ยังพบ เบาะรถสีแดง-ลายดอกไม้ ซึ่งคล้ายกับเบาะรถ 1 ใน 5 คันที่ถูกอายัดไว้เมื่อวานนี้
และมีเบาะรถอีก 1 คู่ ถูกถอดไว้ ด้านหลังมีข้อความว่า "ชินบุตรทัวร์" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ขนส่งฯ สันนิษฐานว่า เป็นเบาะจากชั้นล่างของรถ ถอดออกเพื่อนำถังแก๊สออกจากรถ นอกจากนี้ยังพบเศษเหล็ก คล้ายคานที่ใช้ล็อกถังแก๊สและสายรัดถังแก๊สด้วย
เทศบาลฯ เผยเจ้าของไม่ได้ขอเปิดอู่ แต่ขอเปิด "โรงจอดรถ"
อู่แห่งนี้ไม่ติดป้ายชื่อ อยู่ห่างจากถนนหลัก ติดป่าชุมชน โดยรอบเป็นที่รกร้าง ผู้สื่อข่าวตรวจสอบกับ เทศบาลตำบลโคกกรวด พบว่าไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นอู่ แต่ขออนุญาตเปิดเป็น "โรงจอดรถ" ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งถือว่ามีความผิด เพราะขอจดทะเบียนไม่ถูกต้อง
ด้าน นายภัคพล ยิ้มดี นายช่างโยธาเทศบาลตำบลโคกกรวด ระบุว่า ช่วงแรกๆ เคยเข้าไปตรวจสอบพบมี รถทัวร์ถูกจอดทิ้งไว้ ส่วนใหญ่เป็นรถที่ประสบอุบัติเหตุ มีการรื้ออะไหล่เพื่อนำไปซ่อมที่อื่น แต่ไม่ทราบว่ามีการประกอบรถ หรือ ติดตั้งแก๊ส หรือไม่
ผลตรวจพบ "รถบัส" ติดถังแก๊ส 10 ถัง ขออนุญาตแค่ 6 ถัง
รถบัส 5 คัน ทยอยเข้าตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี รถ 4 คัน เป็นของบริษัท ชินบุตรทัวร์ และอีก 1 คัน เป็นรถของ บริษัท ปาณิสรา
ขณะที่ผลการตรวจรถทั้ง 5 คัน พบว่ารถติดตั้งถังแก๊ส 10 ถัง แต่ขออนุญาตไว้ 6 ถัง ทั้งหมดถูกซุกซ่อนไว้ในช่องเก็บอุปกรณ์ บริเวณด้านหน้ารถ และใกล้กับประตูฉุกเฉิน
นอกจากนี้ยังพบว่า รถบางคันไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงและค้อนทุบกระจก ซึ่งเจ้าของอ้างว่า นำอุปกรณ์ไปให้รถคันที่เกิดไฟไหม้ ส่วนประตูฉุกเฉินด้านหลัง บางคันไม่สามารถเปิดได้
ขนส่งฯ ชี้พบติดถังแก๊สซ่อนในช่องเก็บของ ใช้ยางอะไหล่ทับ
นายช่างตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ถังแก๊สมีการซุกซ่อน และติดตั้งเพิ่มเติม เพราะจุดนั้นเป็นช่องเก็บของใช้ และใช้ยางอะไหล่ปิดทับไว้ไม่ให้เห็น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สั่งพ่นสีหน้ากระจกรถ เพื่อสั่งห้ามไม่ให้ใช้รถทั้ง 5 คัน จนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น
ระหว่างการตรวจสอบ มีการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี พบว่า ไม่มีการถ่ายภาพ หรือ บันทึกเอกสารประกอบการตรวจสภาพรถบัสไว้เป็นหลักฐาน มีเพียงใบรับรองการตรวจสภาพเท่านั้น ทำให้มีข้อสังเกตว่าการตรวจสภาพอาจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ร่วมตรวจสอบ จะตรวจย้อนหลังว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
มาตรฐานตรวจและทดสอบ "ระบบก๊าซเอ็นจีวี" รถโดยสาร
ลักษณะถังก๊าซเชื้อเพลิงของรถทัศนศึกษาคันเกิดเหตุ พบว่า จำนวนหนึ่ง ไม่ปรากฏความเสียหายจากเพลิงไหม้
แต่เมื่อตรวจสอบกับข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ที่รายงานต่อคณะกรรมาธิการคมนาคม ระบุว่า พบท่อก๊าซที่หลุดออกจากกัน บริเวณจุดที่ 8 ซึ่งอยู่ด้านหน้ารถ และถูกระบุว่าเป็นต้นเพลิง
ซึ่งข้อมูลนี้ตรงกับข้อมูลของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่เปิดเผยว่า สาเหตุไฟไหม้ มาจากการรั่วไหลของก๊าซ ที่อยู่บริเวณส่วนหน้าของรถ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ในจุดที่พบท่อหลุดออกจากกัน
มาตรฐานตรวจและทดสอบ "ระบบก๊าซเอ็นจีวี" รถโดยสาร
ทีมข่าวนำข้อมูลที่ได้จากทั้ง 2 หน่วยงาน ไปตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า รถคันเกิดเหตุ ผ่านการตรวจสอบระบบก๊าซ โดย บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2567 และเมื่อตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า จัดตั้งบริษัทอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ
วัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจมีทั้งหมด 35 ข้อ ในข้อที่ 23 ระบุว่า ประกอบกิจการบริการติดตั้งระบบก๊าซ NGV และตรวจสภาพรถยนต์ที่ติดตั้ง NGV และ LPG ทั้งในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบริการ รถสิบล้อ รถบัส และรถหัวลาก ปัจจุบันยังประกอบกิจการ เมื่อทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามตามที่อยู่ แต่ถูกปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล
อ่านข่าว :
จ่ายค่าสินไหมทดแทนกว่า 30 ล้าน "นร.-ครู" เสียชีวิตเหตุไฟไหม้รถบัส