ความคืบหน้าเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา จากโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พบครู-นักเรียนเสียชีวิต 23 คน
- ด่วน! ไฟไหม้รถบัสนักเรียนนำเที่ยวเจ็บ-ตายนับ 10 คน
- สพฐ.ตร.ยันพบเสียชีวิตในรถบัสไฟไหม้ 23 คน ยังระบุเพศไม่ได้ 5 คน
วันนี้ (1 ต.ค.2567) กระทรวงศึกษาธิการ ขอเชิญชวน ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด และในกำกับ ของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันแสดงความเสียใจ และไว้อาลัยกับการจากไปของนักเรียน และครูผู้เสียชีวิต โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามด้วยการไว้ทุกข์ให้กับผู้เสียชีวิต เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 4 ต.ค.นี้
ขณะที่เพจโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้มีผู้มาร่วมแสดงความเสียใจกับ 2 บุคลากรของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม คือ น.ส.พิมพ์ทอง สมบัติ และครูกนกวรรณ ศรีพงษ์ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์รถบัสไฟไหม้ครั้งนี้
โดยกัน จอมพลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า
งดงามจนวินาทีสุดท้าย พบร่างครู กนกวรรณ ศรีพงษ์ กอดนักเรียนไว้ในอ้อมแขน ทำหน้าที่ครูจนวินาทีสุดท้ายขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวครูด้วยครับ
ขณะที่พบว่าครูพิมพ์ทอง เพิ่งได้ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน ในการคัดเลือกผลงานวิธีปฏิบัติที่ดี (Best practice) ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์หน้าที่พลเมืองศีลธรรมและประชาธิปไตยของสถานศึกษาและครูผู้สอนระดับเขตพื้นที่การศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา
โดยมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของครูและนักเรียนจำนวนมาก โดยหนึ่งในข้อความนี้คือ "ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ฝากดูแล เด็กๆ ด้วยนะคะ ขอให้ครูและ เด็กๆ เดินทางไปสวรรค์อย่างปลอดภัย เห็นข่าวแล้วสลดหดหู่ใจมากค่ะ"
อ่านข่าว ย้าย 2 นักเรียนรถบัสไฟไหม้รักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์
ชวนญาติผู้สูญหายตรวจดีเอ็นเอ
ส่วนที่ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) ซึ่งใช้เป็นสถานที่พักชั่วคราวให้นักเรียน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่าทีมสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ระหว่างไล่ภาพกล้องวงจรปิด เพื่อสรุปสาเหตุ รวมไปถึงรอรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐาน แต่จากการสันนิษฐานพบว่าล้อรถระเบิดขึ้นทำให้เกิดประกายไฟ ลุกลามไปที่เครื่อง
ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดค้างในรถ และยังยืนยันไม่ได้ ฝากประชาสัมพันธ์ให้ญาติ ที่ยังไม่พบผู้สูญหาย เดินทางไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ประตูฉุกเฉินไม่สามารถเปิดได้นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่าจากการสอบถามครูที่อยู่ภายในรถยืนยันว่า ประตูเปิดได้
นอกจากนี้ยังเร่งการติดตามคนขับที่หลบหนี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการไล่เส้นทางหลบหนี พร้อมส่งทีมสืบสวนติดตาม เชื่อว่าจะสามารถจับคนขับได้ ประวัติภูมิลำเนาอยู่ จ.สิงห์บุรี
อ่านข่าว ส่งผู้เสียชีวิตเหตุไฟไหม้รถบัสพิสูจน์อัตลักษณ์ รพ.ตำรวจ 7 วันรู้ผล
เบื้องต้นการทัศนศึกษาครั้งนี้ มีรถบัสรับส่ง 3 คัน เด็กนักเรียนที่ร่วมทัศนศึกษาจำนวน 137 คน รถคันที่ 1 มีผู้โดยสาร 35 คน ครู 4 คน ส่วนคันที่เกิดเหตุคือ คันที่ 2 มีเด็กนักเรียนจำนวน 39 คน บวก ครู 6 คน รวม 45 คน สูญหาย 20 คน ครู 3 คน และคันที่ 3 มีเด็ก 38 คน ครู 5 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้สูญหาย
ขณะเด็กนักเรียนส่วนที่เหลือ ทยอยเดินทางออกจากขึ้นรถบัส ที่บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส) จัดเตรียมมาทั้งหมด 3 คัน กลับภูมิลำเนา ตั้งแต่ช่วงเวลา 15.30 น.โดยมีทีมแพทย์เยียวยาจิตใจ ร่วมเดินทางดูแลอย่างใกล้ชิด โดยบางส่วนมีผู้ปกครองมารอรับด้วยตนเอง
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ในฐานะผู้บัญาการเหตุการณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่มีทั้งหมด 3 คน เบื้องต้นได้ส่งเด็กนักเรียน จำนวน 2 คน ที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานีแล้ว เนื่องจากมีอาการสำลักควันไฟ และบริเวณผิวหนังถูกไฟไหม้ ส่วนอีกคนอยู่ในระดับสีเหลือง เบื้องต้นได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเด็กแล้ว
คาดว่าหลังเวลา 21.00 น. พนักงานสอบสวนสภานีตำรวจภูธรคูคต เข้าเก็บหลักฐาน รวมไปถึงเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตออกจากรถ จะมีการเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดการจราจร
ส่วนญาติผู้สูญหายที่เดินทางมาติดตามหาญาติ จำนวน 9 ครอบครัว เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพไทย จะพาไปตรวจดีเอ็นเอ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพิสูจน์ 3 วัน ส่วนที่พักเบื้องต้น ทางกระทรวงศึกษาได้จัดเตรียมพื้นที่ คุรุสภาไว้แล้ว
อ่านข่าว
เช็กขั้นตอนเอาตัวรอดจาก "ไฟไหม้ในรถบัส"
เจ้าของบริษัททัวร์ยันถังก๊าซ NGV รสบัสไฟไหม้ผ่านมาตรฐาน