นักวิชาการ-สมาคมค้าปลีกประเมินแจกเงิน 10,000 พายุไม่หมุน

เศรษฐกิจ
27 ก.ย. 67
19:41
202
Logo Thai PBS
นักวิชาการ-สมาคมค้าปลีกประเมินแจกเงิน 10,000 พายุไม่หมุน
นักวิชาการและสมาคมผู้ค้าส่งปลีก-ไทย ประเมินว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้ทำให้เกิดพายุหมุน แต่เป็นเพียงลมพัดผ่านเท่านั้น และผู้ได้ประโยชน์จากโครงการนี้คือกลุ่มทุนใหญ่ ไม่ใช่เอสเอ็มอีขนาดเล็ก

วันนี้ (27 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่จัดทำป้ายคูปองส่วนลด ตั้งแต่ 30 บาทถึง 1,300 บาท ใช้ซื้อสินค้าได้ทั้งในไฮเปอร์มาร์เก็ต โลตัสโกเฟรช และร้านค้าในพื้นที่เช่า เพื่อสร้างแรงจูงใจสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท โดยภายในห้างมีจุดรับตรวจสอบสิทธิ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือบัตรด้วย ส่วนห้างอีกแห่งให้คูปองส่วนลดเพิ่ม 880 บาทและออกคูปองส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าตามที่กำหนด

ขณะที่ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ เริ่มทดลองสแกนจ่ายด้วยแอปพลิเคชันของธนาคาร ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามาถูกจังหวะแจกเงินพอดี ซึ่งก่อนหน้านี้รับชำระเพียงเงินสด หรือสามารถสแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งทีมข่าวสอบถามพนักงานบางคน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลอง คาดว่าวันที่ 2 ต.ค.นี้ จะเปิดให้บริการสแกนจ่ายมากขึ้น

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ระบุว่า จากการสอบถามร้านค้าโชห่วยในภูมิภาคที่เป็นสมาชิก เกี่ยวกับการแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์ แต่กลับเป็นกลุ่มทุนใหญ่ได้ประโยชน์ ซึ่งต่างก็งัดกลยุทธ์ดึงลูกค้าด้วยการแจกคูปองส่วนลด เพื่อดึงคนเข้าห้าง ส่วนเงินที่ได้ก็ถูกนำไปใช้ในหลายวัตถุประสงค์ ทั้งซื้อสินค้ากับร้านขนาดใหญ่และใช้หนี้ หลายคนก็ใช้หมดในครั้งเดียว ไม่ได้ทำให้เกิดพายุหมุนตามที่รัฐบาลต้องการ

คิดว่าไม่ได้เป็นพายุหมุนอะไรมาก กว่าจะจ่ายครบทั้งหมดก็เหมือนเปิดพัดลมตัวใหญ่แค่นั้น ไม่ได้มีแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจเท่าไหร่ มันผิดเป้าหมายที่โฟกัสทีแรกว่าจะแจกเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของต่างจังหวัด ชุมชน แต่พอเป็นเงินสดมันซื้อที่ไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นเม็ดเงินจะกลับไปสู่ท่อใหญ่ของร้านใหญ่ ของนายทุนใหญ่

สอดคล้องกับ รศ.อธิภัทร มุทิตาเจริญ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า โครงการนี้ไม่ได้ทำให้เกิดพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงื่อนไขเปลี่ยนไปจากเดิม

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 25-26 ก.ย. กรมบัญชีกลางโอนเงินให้กลุ่มเป้าหมายสำเร็จแล้ว 7.48 ล้านคน มียอดสะสมของการโอนเงินไม่สำเร็จ 190,445 คน จากหลายสาเหตุการ เช่น บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์ จึงขอให้ผู้มีสิทธิดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือติดต่อธนาคาร เพื่อรับการจ่ายเงินซ้ำในรอบถัดไป

อ่านข่าว

ไม่แผ่ว! 3 วันยังแห่กดเงินหมื่นจนหมดตู้-รอคอยซื้อของเข้าครัว

แจก 10,000 บาท 2 วันโอนไม่ผ่าน 1.9 แสนคน เปิด 2 สาเหตุไม่ได้เงิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง