จากกรณีที่เกิดดราม่าในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ชาวบ้านที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขอให้กลุ่มรถแบคโฮ จิตอาสา ที่มาช่วยนำโคลนออกจากบ้านหลังน้ำท่วม ออกไปจากพื้นที่ บ้านถ้ำผาจม จ.เชียงราย นั้น
วันนี้ (27 ก.ย.2567) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามไปยัง คุณแนค ตัวแทนจากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า หนึ่งในกลุ่มที่เข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่บ้านถ้ำผาจม จ.เชียงราย
คุณแนคเล่าว่า กลุ่มรถแบคโฮดังกล่าว เป็นการประสานโดยกรมชลประทาน และกลุ่มฟื้นฟูบ้านผาจม โดยกลุ่มดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2567 และ ทำงานจนถึงวันที่ 25 ก.ย.2567 ด้วยการว่าจ้างของมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก ส่วนเทศบาลตำบลแม่สาย เป็นผู้จ่ายค่าน้ำมัน
คุณแนคกล่าวว่า กลุ่มดังกล่าว มีรถแบคโฮเล็ก 6 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน มีการทำงานคือ รถแบคโฮเล็ก จะทำงานกับรถ 6 ล้อเล็ก จับคู่กัน 2 จุด ซึ่งคู่นี้จะมีค่าจ้างวันละ 4,000 บาท
ขณะที่ รถแบคโฮเล็กอีก 4 คัน จะมีค่าจ้างวันละ 1,000 บาท รวมเฉลี่ยวันละ 12,000 บาท นอกจากนี้ กลุ่มดังกล่าว ยังมีรถกระบะอีก 2-3 คัน เข้ามาช่วยเหลือให้ฟรี โดยทางกลุ่มฟื้นฟูบ้านถ้ำผาจม เป็นผู้ออกค่าน้ำมันให้
ส่วนกรณีที่ให้หยุดทำงานนั้น เนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนจากชาวบ้านว่า กลุ่มรถแบคโฮดังกล่าว เรียกรับเงินในการตักโคลน ออกจากบ้านเรือนประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งมองว่าเป็นการซ้ำเติมชาวบ้าน
เพราะในการเข้ามาช่วยชาวบ้านนั้นไม่ต้องการให้ชาวบ้านต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้จะหารือและตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะสอบถามกลุ่มแบคโฮเล็กกลุ่มนี้อีกครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่ นายเกรียงศักดิ์ อำพรไพ อส.ปภ.สายงานบ้านถ้ำผาจม จ.เชียงราย กล่าวว่า การช่วยเหลือฟื้นฟูให้ชาวบ้านได้ออกแบบและวางแผนการทำงานร่วมกัน เพื่อให้งานดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยการวางแผนใน 3 ขั้นตอน คือ 1.การเคลียร์ดินโคลนบนถนนเส้นทางหลัก โดยมีหลายหน่วยงานช่วยกัน จากนั้น จะเป็นขั้นตอนที่ 2 คือ รถแบคโฮเล็กเข้าตักดินในบ้านเรือนประชาชนแต่ละหลัง ขั้นตอนที่ 3 คือ ให้ทางจิตอาสาหรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าฉีดน้ำทำความสะอาด โดยดำเนินการในแต่ละจุดที่วางแผนไว้หรือตามความจำเป็นเร่งด่วน
ในการดำเนินการดังกล่าว ถ้าทำตามขั้นตอนจะทำให้ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่กลุ่มแบคโฮดังกล่าว ซึ่งมีตัวแทนมาร่วมประชุม แต่ไม่ปฏิบัติงานตามที่มีการวางแผนร่วมกัน ทำให้การทำงานไม่ราบรื่น
เราตกลงร่วมกันทุกฝ่ายว่า จะเคลียร์พื้นที่ถนนส่วนกลางก่อน จากนั้นค่อยเข้าไปขุดดินโคลนจากในบ้านออกมา นำไปทิ้ง เพื่อให้สะดวกในการทำงาน แต่เขาไม่ทำตามนี้ งานจึงติดขัด และการทำงานของกลุ่มนี้เป็นการจ้างงาน ซึ่งเมื่อปฏิบัติงานไม่สอดคล้องกัน จึงต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และเลิกจ้าง
รูปแบบการทำงานที่บ้านถ้ำผาจม มีการหารือและออกแบบไว้จึงต้องการให้นำมาเป็นตัวอย่างในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยอื่น ๆ ซึ่งขณะนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นกระทบต่อขวัญกำลังใจของกลุ่มที่เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านถ้ำผาจม บางส่วนได้แจ้งหยุดและขอะออกจากพื้นที่ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยและขอให้อยู่ช่วยเหลือชาวบ้านกันต่อไป
ขณะนี้ยังเหลือบ้านที่ต้องเข้าขุดโคลนอีกจำนวนมาก รวมถึงการเคลียร์เส้นทางหลักบริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งจะทำให้การจราจรในพื้นที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ มีคลิปเสียง อ้างว่าเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งมีเนื้อหาพบว่ามีการเรียกรับเงินเพิ่มเติมโดยมีเนื่อหาบางส่วนดังนี้ "ผู้นำหมู่บ้าน นาย A และ นาย B เรียก 1,000 บาท แล้วก็มีอีกหมู่บ้านเรียกอีก 1,000 บาทก็มีคนจ่ายให้แล้ว ทีนี้มาเรียกเก็บที่บ้านพี่ชายผมอีก 1,000 บาท แต่พี่ผมมีเงินติดตัวแค่ 500 บาท เลยขอว่า ขอรถ 2 คันเป็น 1,000 บาทได้มั๊ย แล้วก็ไปยืมเงินคนแถวบ้านมาเป็น 1,000 บาท"
อ่านข่าว : เปิดภาพ อ.แม่สาย อ่วม ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำท่วมตลาดสายลมจอย
10 วัน "ถ้ำผาจม" แม่สายยังอ่วมจมโคลน
ฝ่าวิกฤต "ถ้ำผาจม" ระดมเครื่องจักรเร่งกู้บ้านจมโคลน