วันนี้ (24 ก.ย.2567) นายณภัทร ประเสริฐดี ผู้อำนวยการสำนักช่าง เทศบาลนครเชียงใหม่ ระดมทีมงานเทศบาลนครเชียงใหม่ และผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ร่วมตั้งวอร์รูมริมสะพานนวรัตน์ กลางเมืองเชียงใหม่ เพื่อมอนิเตอร์ระดับน้ำ ในแม่น้ำปิง แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00 น. ของเช้าวันนี้ และดำเนินต่อไปจนกว่าสถานการณ์ระดับน้ำปิงจะกลับสู่ในสถานการณ์ที่คลายกังวล
ปัจจุบันระดับน้ำปิงเพิ่มตัวสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (23 ก.ย.2567) จนทำให้ปริมาณน้ำสะสมไหลลงน้ำปิงเป็นปกติ และขอให้ประชาชนคลายความกังวล และไม่ต้องห่วง เนื่องจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ยังคงเป็นปกติตามปริมาณที่เกิดขึ้นจากฝนตกที่สะสม
รวมไปถึงมีการพร่องน้ำมาตลอด 3-4 วัน ผ่านการเปิดประตูระบายน้ำ และมีการประสานกับกรมชลประทาน ส่วนราชการของจังหวัดเชียงใหม่ หลายหน่วยในการประเมินสถานการณ์น้ำนาทีต่อนาที
โดยจุดวิกฤตของจังหวัดเชียงใหม่ คือ ระดับ 4 เมตร ปัจจุบันแม้ว่า ไม่ถึงจุดวิกฤตแต่ก็มีการแจ้งเตือนประชาชน ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำปิงบางจุด ที่อาจเกิดมวลน้ำทะลักเอ่อล้น ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อม เช่น ขอให้มีการยกทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง ขอให้มีการขนย้ายยานพาหนะไปจอดไว้ในที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ทางสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ยังร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ กรมชลประทาน ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ประจำทุกประตูระบายน้ำ และทุกจุดสำคัญใน จ.เชียงใหม่ เพื่อรายงานแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงมีการประเมินสถานการณ์ที่ต้องแจ้งเตือนประชาชน และเตรียมพร้อมผ่านผู้ใหญ่บ้าน-กำนันในพื้นที่ ให้เตรียมประชาชนให้พร้อมรับมือในกรณีที่เกิดวิกฤติและฉุกเฉิน
ซึ่งเมื่อเทียบกับสถานการณ์ในปี 2565 แล้ว ปัจจุบันยังอยู่ห่างจากจุดที่วิกฤตอีกมาก ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์เทียบกับปี 2565 ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งระบายน้ำเพื่อให้ระดับน้ำปิงกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งคาดการณ์ว่าช่วงเย็นถึงกลางดึกในวันนี้สถานการณ์น้ำปิงจะกลับสู่ปกติ
ส่วนน้ำปิงที่เพิ่มระดับสูงขึ้นในปัจจุบัน มาจากการเร่งระบายมวลน้ำจากทั้งที่ อ.เชียงดาว อ.แม่แตง และเขตตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อให้น้ำไหลออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เร็วที่สุด
จึงสามารถพบเห็นได้ว่า น้ำปิงมีระดับสูงขึ้น ก็เนื่องจากมวลน้ำที่ถูกเร่งระบายในอัตราการไหลอย่างรวดเร็วต่อวินาที เพื่อให้ระดับน้ำพร่องออกจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยเร็วที่สุด
อ่านข่าว : ทางหลวงชนบท 12 สายทางเหนือ-อีสานน้ำยังท่วม รถผ่านไม่ได้