- 25-30 ก.ย.นี้ โอนเงิน 1 หมื่นบาท กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ 14.5 ล้านคน
- วัดราชบพิธฯ ห้ามทำพิธีแต่งงานในพระอารามหลวง
วันนี้ (18 ก.ย.2567) ความคืบหน้าหลังจากรัฐบาลแถลงรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสิ่งเร่งด่วนคือการเติมเงินดูเศรษฐกิจ โดยเดือน ก.ย.เม็ดเงินจะถึงมือประชาชน กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 12.4 ล้านคน และกลุ่มผู้ถือบัตรประจำตัวคนพิการ อีกประมาณ 2,149,286 คน รวมเป็น 14,555,240 คน
โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณรวม 145,552.40 ล้านบาท จะเริ่มต้นจ่ายเงินในวันที่ 25 ,26,27 และ 30 ก.ย. ซึ่งจะแบ่งจ่าย 4 วัน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องของระบบ
โดยจะเริ่มโอนวันแรก 25 ก.ย.2567 ใช้เวลาทั้งหมด 4 วันไม่รวม เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะได้รับเงินครบทั้งหมดภายในวันที่ 30 ก.ย.2567 โดยกำหนดโอนเงิน 10,000 บาทเข้าบัญชีระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ดังนี้
อ่านข่าว : "เงินดิจิทัล" เริ่มกดเงินสด 10,000 บาท 25 ก.ย.นี้
วันที่ 25 ก.ย.2567 สำหรับผู้พิการ 2.1 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
วันที่ 26 ก.ย.2567 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3
วันที่ 27 ก.ย.2567 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7
วันที่ 30 ก.ย.2567 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9
ซึ่งส่งผลให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ ทำให้ประชาชนต่างพากันไปทำบัญชีพร้อมเพย์ของธนาคาร เพื่อรับเงินจนแน่นธนาคาร โดยเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ชาว จ.อุทัยธานีเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหนองฉาง อ.หนองฉาง จำนวนมาก เพื่อเปิดบัญชีพร้อมเพย์ของธนาคาร พร้อมนำหลักฐานสมุดบัญชีธนาคารและบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง เพื่อเตรียมรับเงิน 10,000 บาท หลังจากรัฐบาลประกาศเตรียมจ่ายเงินงวดแรกให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้พิการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. นี้
ตลอดทั้งวัน มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทำให้ธนาคารต้องปิดรับบัตรคิวเพิ่ม ส่วนใหญ่ผู้มาใช้บริการ เป็นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่มาดำเนินการแทนกลุ่มผู้พิการ บางคนเป็นผู้สูงอายุ อายุมากถึง 80 ปี เดินทางจากบ้านมาไกลกว่า 40 กิโลเมตร เพราะมีความหวังว่าหากได้เงิน 10,000 บาท จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
เช่นเดียวกับ ประชาชนกลุ่มเปราะบางใน จ.นครสวรรค์ เดินทางมาใช้บริการที่ ธนาคารกรุงไทยสาขานครสวรรค์ เพื่อยืนยันตัวตน และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร เพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีบัตร ATM หรือ บัญชีที่ผูกกับระบบพร้อมเพย์
ขณะที่ ธนาคาร ธกส.สาขาวังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก มีประชาชนกลุ่มเปราะบางเดินทางมายืนยันตัวตน โดยมีการอำนวยความสะดวก จัดช่องทางพิเศษ ให้ กับประชาชนที่มาใช้บริการ หลายคนบอกว่าดีใจที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท เพราะเป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพ
ส่วนที่ จ.ชัยนาท มีเสียงสะท้อนจากผู้สูงอายุ กลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการผูกบัญชีระบบพร้อมเพย์ได้ จึงขอให้รัฐบาลหาแนวทางการจ่ายเงิน อำนวยความสะดวกให้คนกลุ่มนี้ด้วย
ทั้งนี้ประชาชนบางส่วนสะท้อนว่า ไม่เข้าเกณฑ์กลุ่มเปราะบางทำให้ต้องรอลุ้นช่วงปีหน้า และรู้สึกผิดหวังที่ได้เงินล่าช้า เพราะเงิน 10,000 บาท ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอ สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ ที่ต้องการนำมาใช้จ่ายในครอบครัว
อ่านข่าว :
รีบผูกพร้อมเพย์! กลุ่มเปราะบางรับ "เงินสด" ดิจิทัล 25-30 ก.ย.นี้