วันนี้ (17 ก.ย.2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัยหลายพื้นที่ในประเทศ ว่า จากการลงพื้นที่ จ.เชียงราย และได้เห็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบซึ่งมีความเสียหายมากจึงได้เน้นย้ำตำรวจในพื้นที่ให้ปฏิบัติตาม 7 มาตรการป้องกันอาชญากรรมอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งได้เน้นหนักเรื่องการส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปตามหมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ต้องรอให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเดินทางมาหาโดยขอให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปพูดคุยซักถามสิ่งที่จะได้คือข้อมูลความเดือดร้อน หรือภัยที่ได้รับจากมิจฉาชีพ หากตำรวจได้ข้อมูลส่วนนี้มาก็ได้สั่งการย้ำผู้บัญชาการทุกระดับต้องนำข้อมูลชุดนี้มาประชุมทั้งช่วงเช้าและเย็นเพื่อวางแผนปฏิบัติงาน
ส่วนในลำดับต่อไปคือการเปิดจุดรับแจ้งเหตุชั่วคราวส่วนหน้าซึ่งจุดนี้จะไม่อยู่กับที่ถาวร แต่จะต้องเคลื่อนย้ายไปอยู่จุดที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และจุดที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ได้จะนำส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาและพนักงานสอบสวน
สำหรับประเด็นมิจฉาชีพเบื้องต้นย้ำว่าตำรวจต้องจับกุมให้ได้เพราะการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อมูลคือ มีบุคคลแปลกหน้าเข้าไปในพื้นที่มีความพยายามที่จะโจรกรรมทรัพย์สิน ส่วนการโจรกรรมที่สำเร็จแล้วยังไม่ได้รับรายงาน แต่จะเร่งรวบรวมข้อมูลในวันนี้
น้ำท่วม จ.เชียงราย
7 มาตรการ ดูแลอาชญากรรมช่วงน้ำท่วม
สำหรับมาตรการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่จะเกิดช่วงเหตุอุทกภัย ประกอบด้วย
1. เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุอาชญากรรมในลักษณะเป็นการซ้ำเติมประชาชน เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ และชุดช่วยเหลือประชาชนออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบอุทกภัย
2. ปรับแผนการตรวจ การจัด และควบคุมสายตรวจทุกประเภทให้เหมาะสมกับพื้นที่และห้วงเวลา โดยประสานความร่วมมือทั้งด้านข้อมูลและการปฏิบัติกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และอาสาสมัคร บูรณาการร่วมกันออกตรวจ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสในการลักทรัพย์สินหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่ชุมชนเมืองหรือพื้นที่ที่ไม่ได้ประสบปัญหาอุทกภัย ซึ่งอาจมีผู้คนอพยพเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อันอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปก่อเหตุอาชญากรรมต่าง ๆ ในพื้นที่เสี่ยงและจุดล่อแหลม โดยการเพิ่มความเข้มและความถี่ในการออกตรวจเป็นพิเศษ
3. ตั้งจุดตรวจบุคคล ยานพาหนะ ในเส้นทางล่อแหลมหรือเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบอาวุธ วัตถุต้องสงสัย และยาเสพติด
น้ำท่วม จ.เชียงราย
4. จัดทำแผนเผชิญเหตุคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ตู้บริการเงินสด (ATM) ตู้เติมเงิน ย่านธุรกิจการค้า โดยกำหนดจุดตรวจ/จุดสกัดเคลื่อนที่ จุดก้าวสกัดจับที่ชัดเจน มีการทบทวนและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
5. ให้หัวหน้าหน่วยกำกับดูแลการปฏิบัติด้วยตนเอง ทั้งด้านการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว การดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ และการปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาเปิดพื้นที่สถานีตำรวจ จุดตรวจ ตู้ยาม เป็นสถานที่พักพิงของผู้ประสบภัยชั่วคราว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัย และเป็นการป้องกันภัยที่เกิดจากการก่อเหตุอาชญากรรมต่าง ๆ ได้
6. ให้หน่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสในการก่ออาชญากรรม เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการโจรกรรมทรัพย์สินและประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งแนะนำช่องทางการแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแสอาชญากรรมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ทางสายด่วน 191 หรือ 1599 หรือช่องทางการสื่อสารกับสถานีตำรวจในพื้นที่โดยตรง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ภัยพิบัติและประกาศแจ้งเตือนของหน่วยราชการที่เกี่ยวกับอุทกภัยในพื้นที่
7. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างใกล้ชิด โดยกำหนดผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน
อ่านข่าว : จ.หนองคาย น้ำโขงลดต่อเนื่อง เทศบาลฯเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมือง
ไขรหัสลับในกระแสเลือด จำเป็นไหมที่ต้องรู้จักกรุ๊ปเลือดตัวเอง ?