- "ลิซ่า คว้ารางวัล "Best K-Pop" จากเวที MTV VMAs 2024
- รวมความประทับใจ "คนไทยไม่ทิ้งกัน" ฝ่าวิกฤตน้ำท่วมเชียงราย
เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วมทั้งคัน นับเป็นเหตุการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงเสียหายหนักจนต้องเปลี่ยนรถคันใหม่เลยทีเดียว การจัดการ ดูแลรถหลังน้ำท่วมอย่างถูกต้องถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากการท่วมทั้งคันอาจสร้างความเสียหายซ้ำซ้อน กับระบบที่ซับซ้อนต่าง ๆ ของรถยนต์
อย่าสตาร์ตรถเด็ดขาด การพยายามสตาร์ตเครื่องยนต์ที่มีน้ำเข้าไปอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายหนักขึ้น เนื่องจากน้ำอาจเข้าสู่กระบอกสูบและระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ควรตรวจสอบระดับน้ำที่เข้าไปในรถและสิ่งของต่าง ๆ ในรถก่อน
ประเมินระดับน้ำ-ติดต่อประกันภัย (ถ้ามี) ตรวจสอบว่าระดับน้ำ ท่วมถึงระดับใด และถ่ายรูปบันทึกความเสียหายไว้เป็นหลักฐาน แจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาเช็กสภาพรถและประเมินความเสียหาย
ลากรถไปยังศูนย์ซ่อมหรืออู่ ติดต่อบริการลากรถเพื่อนำรถไปยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่มีประสบการณ์ในการซ่อมรถที่ถูกน้ำท่วม อย่าพยายามเคลื่อนย้ายรถเองถ้าไม่มีความจำเป็น
ประเมินความเสียหาย ให้ช่างที่ชำนาญการตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของรถ เช่น เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฟฟ้า ระบบเบรก ระบบระบายความร้อน และ ระบบแอร์อย่างละเอียด ตรวจดูว่ามีน้ำเข้าถึงส่วนใดบ้าง
ถ่ายของเหลวทุกชนิด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และน้ำมันอื่น ๆ ทั้งหมด เนื่องจากน้ำอาจปนเปื้อนและทำให้ระบบเสียหายได้
ตรวจสอบและซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าอาจเป็นส่วนที่เสียหายหนักที่สุด ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ สายไฟ ฟิวส์ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด หากมีการเสียหายควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซมทันที
ทำความสะอาดภายในรถ นำ พรม เบาะที่นั่ง ส่วนประกอบภายในที่เปียกน้ำออกจากรถ ทำความสะอาดและตากให้แห้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็น
ทดสอบรถหลังซ่อมแซมทั้งหมด แต่ต้องทดลองขับรถในพื้นที่ที่ปลอดภัย ตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ หากพบปัญหาเพิ่มเติม ควรแจ้งกลับไปที่ศูนย์ซ่อมทันที
วางแผนการบำรุงรักษาระยะยาว หลังจากการซ่อมแซมแล้ว รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมอาจเกิดปัญหาในอนาคตได้อีก ควรวางแผนการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
ท้ายที่สุด หากรถถูกน้ำท่วมทั้งคัน การซ่อมแซมอาจมีค่าใช้จ่ายสูง และควรพิจารณาว่าการซ่อมแซมนั้นคุ้มค่ากับการใช้งานต่อหรือไม่ ในบางกรณีการขายหรือการเปลี่ยนรถใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
หนีได้หนี ก่อนจะหนีไม่ได้
การขับรถลุยน้ำเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายของรถและอันตรายต่อผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสาร แต่หากจำเป็นต้องขับลุยน้ำจริง ๆ เพราะขืนจอดทิ้งไว้ ความเสียหายจากน้ำท่วมมิดคันอาจมากกว่า ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อความปลอดภัย
ก่อนตัดสินใจขับลุยน้ำ
- ประเมินสถานการณ์ ตรวจสอบระดับน้ำอย่างละเอียด หากน้ำท่วมสูงเกินครึ่งล้อรถ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ หรือ ขับออกไปก่อนที่น้ำจะท่วมเกินครึ่งล้อรถ
- ตรวจสอบสภาพรถ ทั้งระบบเบรก ระบบไฟฟ้า และ ยางรถ ให้พร้อมใช้งาน
ขณะขับรถลุยน้ำ
- ขับช้า ๆ ใช้ความเร็วต่ำและคงที่ ไม่เร่งเครื่องหรือเบรกกระทันหัน ปิดแอร์ เปิดกระจกเล็กน้อย เพื่อระบายอากาศ
- ใช้เกียร์ต่ำ รถเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือ 2 รถเกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เกียร์ L
- รักษารอบเครื่องให้คงที่ ให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 - 2,000 รอบ/นาที
- หลีกเลี่ยงการขับตามร่องน้ำ อาจทำให้รถเสียหลักได้
- อย่าขับตามรถคันอื่นโดยไม่ระวัง ให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพียงพอ
- สังเกตสภาพถนน ระวังหลุมบ่อหรือวัตถุอื่น ๆ ที่อาจซ่อนอยู่ใต้น้ำ
หลังจากขับลุยน้ำ
- ตรวจสอบเบรก ด้วยการเหยียบเบรกเบา ๆ หลายครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
- ตรวจสอบใต้ท้องรถ หารอยรั่วหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่
- นำรถเข้าตรวจเช็กหลังจากขับลุยน้ำ เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายใน เช่น เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า และระบบเกียร์
สิ่งที่ควรระวัง
- อย่าดับเครื่องยนต์ทันที ควรขับรถต่ออีกสักระยะ เพื่อไล่น้ำออกจากท่อไอเสีย
- อย่าพยายามสตาร์ตรถซ้ำ หากเครื่องดับกลางน้ำอาจทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ได้มากขึ้น
- หากน้ำท่วมสูงเกินไป ควรลงจากรถและขอความช่วยเหลือทันที
- การขับรถลุยน้ำมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ หากสามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรหลีกเลี่ยง
คำแนะนำเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศและสภาพถนนก่อนออกเดินทาง เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย ถุงมือ และโทรศัพท์มือถือ
อ่านข่าวเพิ่ม :
เขื่อนแม่งัดฯ ลดระบายน้ำ หลังฝนตกหนัก
ตาย 1 คนน้ำท่วมแม่สาย ผู้ตกค้างอ่อนแรงอดข้าว 3 วัน
ช่วย 2 ตายายติดหลังคาหนีน้ำท่วมแม่สาย - 80 นร.ปลอดภัยแล้ว
ยกเลิกทุกเที่ยวบิน! หางแดงไฟลท์สุดท้ายออกจากแม่ฟ้าหลวงบ่ายนี้