วันนี้ (9 ก.ย.2567) ร่องรอยสะเก็ดระเบิดยังคงเห็นได้บนผนังและตัวอาคารของแฟลตตำรวจใกล้ท่าเทียบเรือประมงปัตตานี หลังเสียงระเบิดในรถยนต์ หรือ คาร์บอมบ์ ใกล้แฟลตตำรวจเมื่อ 1 เดือนก่อน พร้อมระเบิดในบริเวณใกล้กันอีก 2 ลูก วันนี้กำแพงที่พังเสียหายจากแรงอัดของระเบิดถูกซ่อมแซมแล้ว พร้อมๆ กับมาตรการป้องกันเหตุรุนแรงซ้ำ ด้วยการนำรั้วลวดหนามแบบหีบเพลง และแท่งซีเมนต์มาวางไว้ตลอดแนวถนน ตั้งแต่เส้นทางเข้ามายังท่าเทียบเรือสะพานปลา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำรถทุกชนิดมาจอดบริเวณนี้ และกั้นเส้นทางการค้าขายให้อยู่เฉพาะอีกฝั่งหนึ่งของตลาด
ร้านขายผลไม้ของนายแวยูโช๊ะ อาแว ที่เคยเสียหายอย่างหนักจากแรงอัดของระเบิดคาร์บอมบ์ ซึ่งจอดอยู่ฝั่งตรงกันข้าม วันนี้ถูกซ่อมแซมแล้วเสร็จด้วยเงินออมกว่าหมื่นบาท นายแวยูโซ๊ะ บอกว่า ขณะที่รอเงินเยียวยาจากรัฐก็ต้องซ่อมร้านไปก่อน เพราะเข้าหน้าฝนแล้ว โดยหลังเกิดเหตุแม้จะไม่มั่นใจมากนัก แต่ก็ต้องกลับมาค้าขาย เพราะต้องหาเลี้ยงชีพ
“นี่ก็ผ่านมา 1 เดือนพอดี ตลาดก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม เวลา 07.00-08.00 น.ก็เงียบแล้ว ธรรมดาจะคึกคักกว่านี้ เวลาผมมาขายของก็กังวล ต้องคอยสังเกตคนแปลกหน้า ถ้ามาจอดรถหน้าร้านก็ต้องดู กลัวและกังวลเหมือนกัน” นายแวยูโซ๊ะ กล่าว
แม้เหตุคาร์บอมบ์จะผ่านมา 1 เดือน แต่ลูกค้าทั่วไป หลายคนบอกว่า ต้องรีบซื้อรีบกลับ เช่นเดียวกับลูกค้าคนสำคัญของตลาดสดแห่งนี้ อย่างพ่อค้าแม่ค้ารถเร่ขายของสด ซึ่งต้องมาซื้อสินค้าเพื่อนำไปเร่ขายต่อในหมู่บ้าน หลายคนก็ยังคงกังวล เมื่อต้องมาซื้อของในตลาด
“แม้จะกลัว และกังวลก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะนี่คืออาชีพเดียวของเรา เวลาเรามาซื้อ เราก็ต้องระวังตัวเอง ดูสิ่งของแปลกๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเรา ซื้อเสร็จก็รีบออกจากตลาด” พ่อค้ารถเร่ รายหนึ่งกล่าว
สำหรับเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจใน จ.ปัตตานี เกิดขึ้นในวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.30 น. โดยผู้ก่อเหตุได้ลอบวางระเบิด 3 ลูก ลูกแรกซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องถูกนำมาวางไว้ในถังขยะ และลูกที่ 2 ใกล้บริเวณเกาะกลางถนน แล้วถูกจุดชนวนในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาที่ตลาดเริ่มไม่มีผู้คนแล้ว เนื่องจากเป็นตลาดเช้า ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุอาจต้องการล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดระเบิดในรถยนต์ที่จอดใกล้กำแพงแฟลตตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดี จากการตรวจสอบวัตถุพยาน ที่ประกอบด้วย ชิ้นส่วนโลหะที่เป็นภาชนะบรรจุระเบิด ชิ้นส่วนแผงวงจร ชิ้นส่วนพลาสติกสีม่วง สีขาว สีดำ ชิ้นส่วนเหล็กเส้นตัดท่อน สวิตซ์เปิด - ปิด และชิ้นส่วนแบตเตอรี พบว่า เป็นระเบิดเเสวงเครื่อง ที่บรรจุในถังเเก๊สสีเขียว จำนวน 2 ลูก ขนาด 7 กก.และ 15 กก. จุดชนวนระเบิดเเบบตั้งเวลา
และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ผู้ก่อเหตุแต่งกายคล้ายผู้หญิงมุสลิม สวมถุงมือเเละใส่เเมสปิดบังใบหน้า ที่ขับรถมาจอดและมีรถจักรยานยนต์อีก 2 คันที่ขับตามกันมาจาก อ.ยะหริ่ง มารับ ซึ่งพบเพียงพฤติกรรม แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดบุคคลได้
และการตรวจสอบรถที่นำมาประกอบระเบิด พบว่า ผู้ครอบครอง คือนายสิทธิพร โดยนายสิทธิพร ได้นำมาจำนำไว้ที่เต็นท์รถมือสองพื้นที่ จ.สงขลา จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อขอชื้อผ่านนายหน้า ก่อนโอนเงินมัดจำล่วงหน้าเป็นเงินจำนวน 3,000 บาท เเละจ่ายเงินสดตอนรับส่งมอบรถอีกจำนวน 79,000 บาท วันรับรถจริงนัดส่งที่บริเวณถนนริมทะเลสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ผู้ก่อเหตุที่มารับรถเเต่งกายมิดชิด เมื่อรับรถเสร็จก็รีบขับรถยนต์กระบะออกไป
ทั้งนี้ เหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจใน จ.ปัตตานี เป็นครั้งที่ 3 ที่แฟลตตำรวจตกเป็นเป้าหมายก่อเหตุรุนแรง หลังวันที่ 22 พ.ย.2565 เกิดเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บกว่า 30 คน และวันที่ 30 ม.ย.2567 ก็เกิดเหตุคาร์บอมบ์หน้าหน้าแฟลตตำรวจสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จ.ยะลา ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 34 คน จนเหตุการณ์คาร์บอมบ์ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ที่เกิดขึ้นกับแฟลตตำรวจใน จ.ปัตตานี
อ่านข่าว :
ป.ป.ช.ปัตตานีตรวจสอบโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ 2 แห่ง งบกว่า 45 ล้านบาท
