ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพความเสียหายของอาคารในเมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูกโจมตีพื้นที่ดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ย.2567 ตามเวลาท้องถิ่น
ล่าสุดโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แถลงว่า ขีปนาวุธของรัสเซียตกใส่สถาบันการศึกษาทางการทหารและโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 51 คน บาดเจ็บ 271 คน ถือเป็นการโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุขึ้น เมื่อเดือน ก.พ.2565
ผู้นำยูเครน ยังระบุว่า รัสเซียจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียครั้งนี้ พร้อมสั่งสอบเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นโดยด่วน โดยระบุว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด ประเมินว่าอาจมีผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีก 15 คน
สำหรับเมืองปอลตาวา อยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 300 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนรัสเซียที่ใกล้ที่สุด 120 กิโลเมตร ซึ่งโฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ขณะที่เกิดการโจมตียังคงมีการจัดชั้นเรียนตามปกติ โดยสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเมื่อเวลา 09.08 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ผู้คนรีบเร่งไปยังที่กำบัง แต่ไม่กี่นาทีหลังจากเสียงแจ้งเตือนดังก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ทำให้ไม่มีเวลามากพอในการหาที่หลบภัย
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2565 รัสเซียโจมตีฐานทัพนอกแนวหน้าที่ ทำผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งรัสเซียระบุว่าได้โจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งในเมือง Desna ขณะที่ยูเครนระบุว่าเหตุการณ์นั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 87 คน ต่อมาในเดือน มี.ค.ของปีเดียวกัน มีผู้เสียชีวิต 35 คนจากการโจมตีฐานทัพในบริเวณทางตะวันตกของยูเครน
ด้านผู้นำยูเครน เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศให้ยูเครนเพิ่มเติม รวมทั้งยกเลิกข้อจำกัดการใช้อาวุธพิสัยไกลในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย เนื่องจากมองว่าการโจมตีจากระยะไกลสามารถปกป้องชีวิตประชาชนจากการก่อการร้ายของรัสเซียได้ และมีความจำเป็นในขณะนี้ ซึ่งการล่าช้าออกไปทุกวันหมายถึงการสูญเสียชีวิตมากยิ่งขึ้น
ปูติน เยือนมองโกเลีย
ขณะที่วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีปูติน เดินทางถึงกรุงอูลานบาตอร์ของมองโกเลียอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นสุดยิ่งใหญ่ โดยการเดินทางเยือนมองโกเลียครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำรัสเซียเดินทางเยือนประเทศสมาชิกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) นับตั้งแต่ที่ศาลดังกล่าวออกหมายจับกุมตัวเมื่อปี 2566 จากการเนรเทศเด็กชาวยูเครนไปยังรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย
หมายจับของ ICC จะมีผลกับประเทศสมาชิก 123 ประเทศเท่านั้น ซึ่งรัสเซียไม่ได้เป็นสมาชิก ดังนั้นหมายจับดังกล่าวจึงไม่มีผลบังคับใช้ ยกเว้นในกรณีที่ปูตินเดินทางไปประเทศเหล่านี้ แต่ทางด้านของโฆษกรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า ไม่มีความน่ากังวลว่า ปูตินจะถูกจับตัวระหว่างการเยือนครั้งนี้
ขณะที่ก่อนการเยือนครั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศยูเครน เรียกร้องให้ทางการมองโกเลียปฏิบัติตามหมายจับดังกล่าว และส่งตัวผู้นำรัสเซียไปที่ศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์
มองโกเลียยังคงรักษาความสัมพันธ์อันเป็นมิตรกับรัสเซียมาตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 โดยไม่ได้ประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้น