โหวต “แพทองธาร” เป็นนายกฯ ฉลุย จาก “มะม่วงจำบ่ม” ขึ้นชั้นขี่หลังเสือ

การเมือง
16 ส.ค. 67
14:39
296
Logo Thai PBS
โหวต “แพทองธาร” เป็นนายกฯ ฉลุย จาก “มะม่วงจำบ่ม” ขึ้นชั้นขี่หลังเสือ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไม่มีอะไรพลิกผัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน ด้วยเสียงโหวตถล่มทลาย 319 เสียง ต่อ 145 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง

ไม่เพียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ เท่านั้น แต่เสียงโหวตหนุนยังมากกว่า 314 เสียงของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ทั้งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พรรคเพื่อไทย ไม่ได้แสดงตนโหวตเสียง และคะแนนหนุนที่เพิ่มขึ้น ยังมาจากพรรคไทยสร้างไทย แบบยกพรรคอีก 6 เสียง

จึงไม่ใช่ความเซอร์ไพรส์ สะท้อนการประสานเจรจาตั้งแต่หารือพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันครั้งแรกที่บ้านจันทร์ส่องหล้า แม้จะเริ่มจากการเคาะนายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ แต่สุดท้าย กลายเป็น น.ส.แพทองธาร

สอดคล้องกับกูรูทางการเมืองส่วนหนึ่ง ที่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาและโอกาสมาถึง ผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรคเพื่อไทยคงไม่ปล่อยให้เก้าอี้นายกฯ หลุดมือไปให้คนอื่น แม้แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีสีหน้าดี ราศีจับ

เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน จะรอให้ถึงเลือกตั้งครั้งหน้าก่อน ไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง การจับฉวยไว้ก่อนไม่มีอะไรเสียหาย มิหนำซ้ำยังจะทำให้สปอตไลท์กลับมาสาดส่องที่ น.ส.แพทองธาร “อุ๊งอิ๊ง” อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เป็นผู้หญิงคนที่ 2 จากตระกูลชินวัตร แต่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

เป็นหนึ่งในของขวัญวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 38 วันที่ 21 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ของทายาทนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างเหมาะเจาะ

ขณะที่ในเชิงทางการเมือง ถือว่าลงตัวพอดีกับความต้องการของ สส. เพราะในทางปฏิบัติ การได้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ เท่ากับได้นายกฯ อีกคนคือนายทักษิณช่วยงานอยู่เบื้องหลัง เวลาจัดกิจกรรมทางการเมือง หรือลงพื้นที่หาเสียง จะมีความขลังกว่าได้นายชัยเกษมเป็นนายกฯ เยอะ

ที่สำคัญจะเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่สมน้ำสมเนื้อมากกับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จากพรรคประชาชน ที่เป็นคนรุ่นใหม่เช่นกัน และวัยไม่ห่างกันมาก

น.ส.แพทองธาร เติบโตอย่างรวดเร็วบนเส้นทางการเมือง จนถูกเปรียบเปรยเป็น “มะม่วงจำบ่ม” เพราะเปิดตัวครั้งแรก ปี 2564 เป็นประธานที่ปรึกษาด้านวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ต่อด้วยหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

ต่อมาเป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก่อนเลือกตั้งเดือน พ.ค.2566 ก่อนขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน พอถัดมาปี 2567 ขึ้นลิฟต์เป็นนายกรัฐมนตรี ใช้เวลารวมกันไม่ถึง 3 ปีด้วยซ้ำ

เนื่องจากปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง คือการเป็นลูกสาวนายห้าง เป็นทายาททางการเมืองตัวจริงของนายทักษิณ

ช่วงรัฐบาลนายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่มีบทบาทไม่น้อย โดยเฉพาะการเป็นรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท

และเป็นรองประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ต่อยอด 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาท รักษาทุกที่ ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว อย่างน้อยใน 46 จังหวัดทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ก็เปิดบทบาทสู่การเป็นอินเตอร์ควบคู่กันไป ประเดิมจากร่วมประชุมระดับผู้นำพรรคการเมือง ระหว่างกลุ่มอาเซียนกับรัสเซีย ที่มีนายดิมิทรี เมดเดเวฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ร่วมวงด้วยผ่านระบบออนไลน์ เมื่อต้นปี 2567 ต่อด้วยนำสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไปเยือนกัมพูชา ได้พบสมเด็จฮุนเซ็น และสมเด็จฮุนมาเน็ต ผู้นำรัฐบาลกัมพูชา

และล่าสุดไปศึกษาดูงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. ถือเป็นการบ่มเพาะเรียนรู้สะสมประสบการณ์ เพื่อรองรับการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า แต่เพราะนายเศรษฐา ถูกสอยจากตำแหน่งอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ได้ไปนั่งในเป็นนายกฯ เร็วขึ้นถึง 3 ปี

แต่กระนั้น การทำตัว “เกินเบอร์” กรณีใช้เวทีอีเวนต์การเมืองของพรรคเพื่อไทย เมื่อต้นเดือนพ.ค.2567 วิพากษ์แบงก์ชาติอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะประเด็นความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ

จึงโดนวิจารณ์ยับ เพราะไม่ได้มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์อย่างถ่องแท้ แต่กล้าวิพากษ์ผู้ว่าฯ ที่จบการศึกษาปริญญาโทและเอก จากมหาวิทยาลัยชื่อดังในสหรัฐและอาวุโสกว่า ทำให้ต้องหลบหน้าหายตาจากสาระบบข่าว ปล่อยให้คนในรัฐบาลออกโรงมาแก้ตัวแทนอยู่พักหนึ่ง

ถือเป็นบทเรียนล้ำค่า สำหรับคนที่ขยับจาก “มะม่วงจำบ่ม” ขึ้นชั้นนั่งหลังเสือ ในฐานะผู้นำประเทศ เพราะจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น สำหรับเรื่องที่ท้าทายและปมปัญหาอุปสรรคมากมาย ที่จะให้เผชิญอยู่ข้างหน้า

แค่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตที่มีข่าวบางกระแสอ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายเศรษฐา ต้องกระเด็นจากตำแหน่งนายกฯ และเป็นโครงการที่รัฐบาลนายเศรษฐา “ปล้ำผีลุก ปลุกผีนั่ง” มาตลอด ก็ยังไม่ชัดว่า จะได้ไปต่อหรือไม่ หรือหากไปต่อต้องมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างไร

เป็นประเด็นแรกที่รัฐบาลใหม่ของ น.ส.อุ๊งอิ๊ง ต้องพบศึกหนัก แค่การชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนครึ่งค่อนประเทศที่คาดหวังรอคอยมานาน ก็ส่อเค้ายุ่งยาก และจะมีผลต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้

หัวจะปวดแย่ ตั้งแต่เพียงแค่คิดแล้ว

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว :

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง