ไขคำตอบ! ฤดูฝนอากาศร้อนจัด "สุโขทัย" แตะ 39 องศาฯ

ภัยพิบัติ
13 ส.ค. 67
19:51
603
Logo Thai PBS
ไขคำตอบ! ฤดูฝนอากาศร้อนจัด "สุโขทัย" แตะ 39 องศาฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุตุนิยมวิทยา ไขคำตอบร้อนกลางฤดูฝน ช่วงเดือนส.ค.อากาศร้อนจัด 2 วันติด "สุโขทัย" แตะ 39 องศาเซลเซียส ส่วนกทม.ไม่แผ่ว 34.9 องศาฯ ชี้เมฆน้อย แดดแรง ฝนตกไม่ทั่วฟ้า

วันนี้ (14 ส.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานฝนสะสม 24 ชม.ที่ผ่านมา (12 ส.ค. 67) ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ของวันที่ 12 ส.ค.2567 ถึงเวลา 07.00 น. ของวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา จากสถานีตรวจวัดของกรมอุตุนิยมวิทยา มีรายงานฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ปริมาณฝนมากสุดวัดได้ 47.0 มม. บริเวณภาคตะวันออก ที่ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี

ส่วน กทม.รายงานจากสำนักการระบายน้ำ มีรายงานฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ปริมาณฝนมากสุดวัดได้ 42.5 มม.ที่จุดวัดคลองประเวศฯ-วัดขจรศิริ เขตสวนหลวง

ขณะที่ในช่วงวันหยุดยาว พบว่าหลายพื้นที่อากาศร้อนอบอ้าวมากกว่าปกติโดยข้อมูลเปรียบเทียบอุณหภูมิสูงสุดรายวัน ช่วงวันที่ 9-12 ส.ค.มีดังนี้ 

  • 9 ส.ค.อุณหภูมิสูงสุด 37.2 องศาเซลเซียส อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์
  • 10 ส.ค.อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
  • 11 ส.ค.อุณหภูมิสูงสุด 37.7 องศาเซลเซียส อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
  • 12 ส.ค.อุณหภูมิสูงสุด 36.2 องศาเซลเซียส อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี
  • กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อุณภูมิสูงสุด วัดได้ 34.9 องศาเซลเซียส ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย 

เมฆน้อย-แดดแรง-ร้อนผิดปกติ

นายสมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ในช่วงนี้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางมีเมฆน้อย และดวงอาทิตย์ขาลงถ้าไม่มีเมฆ เหมือนช่วง เม.ย.แต่ต่างกันช่วงเดือนส.ค.จะมีลมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีความชื้นพัดอยู่จึงทำให้อุณหภูมิร้อนแตะระดับที่ 38-39 องศาเซลเซียส ไม่ถึง 40 องศาเซลเซียสเหมือนช่วงฤดูร้อน  

ถือว่าอุณหภูมิที่ร้อนจัดในเดือนส.ค.ไม่ควรพีคไปขนาด 38-39 องศาเซลเซียส เพราะเป็นช่วงฝน แต่ถ้าเป็นช่วงมิ.ย.นี้จะยังไม่ผิดปกติ

นายสมควร กล่าวอีกว่า การที่หลายคนรู้สึกว่าอากาศร้อนอบอ้าวแบบชัดเจนเพราะบางจังหวัดยังมีฝนน้อย โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างแถว กำแพงเพชร พิจิตร สุโขทัย กาญจนบุรี ทำให้ความชื้นน้อย ฝนน้อยและความร้อนสะสม และทำให้อากาศร้อน

คาดว่าจะยังมีบางวันที่อากาศร้อนจัด จนถึงช่วง 17 ส.ค.นี้ จากนั้นดีกรีความร้อนจะเบาลง เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมฆน้อย ฝนน้อย ความชื้นน้อย  
ภาพความเสียหายน้ำป่าหลากบริเวณ บ.แม่ลาก๊ะใต้ ห่างจาก บ.โกปี่ 5 กม. 
ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

ภาพความเสียหายน้ำป่าหลากบริเวณ บ.แม่ลาก๊ะใต้ ห่างจาก บ.โกปี่ 5 กม. ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

ชี้พายุจุดเปลี่ยนสถานการณ์น้ำ

ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.แม่ฮ่องสอนนั้น มาจากปัจจัยเรื่องร่องมรสุมพาดผ่าน และฝนที่ตกสะสมมาจากแนวเชิงเขาตกด้านบนเขา และตอนบนของภาคเหนือ และทางลาว ซึ่งบางแห่งที่น้ำป่าไหลหลากมีฝนสะสมแค่ 40-50 มม.แต่น้ำป่าน้ำไหลหลากแล้วเพราะดิมอิ่มตัว 

อ่านข่าว กรมชลฯเผย 4 เขื่อนหลักยังรับน้ำได้อีก 13,276 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนกรณีที่นักวิชาการแสดงความกังวลว่าปีลานีญากลาง ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ อาจทำให้ไทย มีฝนหนัก และเสี่ยงกับน้ำท่วมรุนแรงวงกว้าง นายสมควร กล่าวว่า ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝน และพายุ ตอนนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ยังรองรับน้ำได้อีกมาก เหลือช่วงเวลาที่จะมีน้ำเติมให้เต็มเขื่อนอีก 1-2 เดือนของก.ย. และต.ค.นี้ฝนจะไปทางภาคใต้

ฝนท้ายเขื่อนยังน้อย น้ำไม่เต็มเขื่อนใหญ่ 4 แห่งมากว่า 40% ยังไม่ห่วงปลายต.ค.-พ.ย.นี้ ปัจจัยเดียว คือพายุจะเป็นจุดเปลี่ยนสถานการณ์น้ำ

ข้อมูลจากกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (13 ส.ค.) พบว่าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 44,338 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 58% ของความจุอ่างรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้  20,395 ล้าน ลบ.ม.ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 31,999 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 11,595 ล้าน ลบ.ม.หรือ 47 % ของความจุอ่างรวมกัน เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 4,899 ล้าน ลบ.ม.ยังรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 13,276 ล้าน ลบ.ม.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง