วันนี้ (8 ส.ค.2567) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีแพลตฟอร์มจีนเข้ามาเปิดขายสินค้าผ่านออนไลน์อย่างแอปพิเคชั่น Temu (เทมู) ที่ขายสินค้าราคาถูกที่ผ่านตรงจากโรงงาน ส่งผลกระทบกับสินค้าไทย และผู้ประกอบการไทย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทุกกรมในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ , กรมศุลกากร กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
หารือเพื่อหาทางแก้ปัญหาเร่งด่วนตามที่ภาคเอกชนได้ขอให้ภาครัฐช่วยเหลือกรณีมีการนำเข้าสินค้าราคาถูกเข้ามาจำหน่ายในไทย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ จนกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศและผู้บริโภค
ปลัดพาณิชย์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหา แบ่งสินค้านำเข้าที่วางจำหน่ายในไทยออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ออฟไลน์และออนไลน์ โดยออฟไลน์ กระทรวงจะลงพื้นที่ตรวจสอบว่าสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ ที่วางขายในไทย ทำถูกต้องตามกฎหมายไทยหรือไม่
เบื้องต้น พบว่า ร้านค้าในแหล่งที่มีคนต่างชาติอยู่มาก คนขายไม่ใช่คนไทย ไม่มีวีซ่าเข้าประเทศ ไม่มีใบอนุญาตแรงงานต่างด้าว ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ หรือจดทะเบียนนิติบุคคล รวมทั้งจะตรวจสอบว่าสินค้านำเข้ามีคุณภาพ มาตรฐาน และไม่เป็นสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่
หากพบความไม่ถูกต้อง จะใช้กฎหมายที่มีอยู่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดดำเนินการ อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการดำเนินการในระยะเร่งด่วน ส่วนระยะกลางและยาว ก็ต้องมาดูว่าต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายใด ๆ บ้าง เพื่อให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
ส่วนการจำหน่ายทางออนไลน์ ได้ขอความร่วมมือกรมศุลกากร จัดส่งสินค้า 10 อันดับแรก ที่นำเข้าจากต่างประเทศสูงสุดผ่านการซื้อทางออนไลน์ เพื่อตรวจสอบดูว่าสินค้านั้น เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ หรือเป็นสินค้าทดแทน หรือเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องนำเข้า รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่าแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่ให้บริการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ในไทย กฎหมายไทยจะดำเนินการใด ๆ ได้บ้าง
เช่น กำหนดให้ต้องตั้งสำนักงานตัวแทนในไทย หรือต้องจดแจ้งใด ๆ หรือไม่ ซึ่งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) แจ้งว่า ภายใต้พระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ.2565 มาตรา 18 (2) และ (3) กำหนดให้แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่แม้ไม่ได้ตั้งอยู่ในไทย
แต่มีลูกค้าในไทย หรือมีความเสี่ยงต่อการเงิน การพาณิชย์ หรืออาจกระทบ หรืออาจเกิดความเสียหายต่อสาธารณะชน ต้องมาจดแจ้งข้อมูลกับ ETDA ด้วย รวมทั้งจะพิจารณาดูว่าจะมีมาตรการอะไรมาดำเนินการเพิ่มเติมได้อีก
นอกเหนือจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้านำเข้าที่ซื้อผ่านทางออกไลน์ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เริ่มตั้งแต่บาทแรก ที่คลังได้จัดเก็บไปแล้ว
อ่านข่าว : Temu "สึนามิ"อีคอมเมิร์ซ รุกคืบกินเรียบสินค้าไทย
"นอมินี" รุกกวาดเศรษฐกิจไทย เอเลียนสปีชีส์ ยึดพื้นที่ท่องเที่ยว