วันนี้ (8 ส.ค.2567) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีวาระพิจารณาและเห็นชอบ “ข้อเสนอการกำหนดสถานบริการสาธารณสุขอื่นตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 กรณีหน่วยบริการปรึกษาทางเลือกสำหรับการให้คำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม (สายด่วน 1663)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ก.ค. บอร์ด สปสช.เห็นชอบให้บริการมิตรภาพบําบัด สายด่วนวัยรุ่น สายด่วนตั้งครรภ์ไม่พร้อม 1663 เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท โดยใช้งบประมาณจากงบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในปีงบประมาณ 2568 และในการประชุมครั้งนี้ได้เห็นชอบให้สายด่วน 1663 เป็นหน่วยบริการปรึกษาทางเลือกเพิ่มเติม สำหรับการให้คำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม
สำหรับสายด่วน 1663 อยู่ภายใต้การบริหารของ “มูลนิธิเข้าถึงเอดส์” เริ่มดำเนินงานให้คำปรึกษาเรื่องโรคเอดส์เมื่อปี 2534 และได้เพิ่มบริการให้คำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อมในปี 2556 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการการให้คำปรึกษาปัญหาด้านการตั้งครรภ์หรือท้องไม่พร้อม เพื่อช่วยลดอัตรากรณีท้องไม่พร้อมรายใหม่ หรือการท้องไม่พร้อมซ้ำ ช่วยลดอัตราการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยมีการส่งต่อผู้รับบริการไปยังหน่วยบริการที่ให้การดูแลสอดคล้องกับปัญหา เน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ 1.กลุ่มหญิงที่มีปัญหาการตั้งครรภ์หรือท้องไม่พร้อม 2.บุคคลในครอบครัว หรือบุคคลที่พบปัญหาหญิงตั้งครรภ์หรือท้องไม่พร้อม
ขณะที่ รศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของสายด่วน 1663 ในปีงบประมาณ 2566 จากข้อมูลโดยมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มีผู้โทรเข้ามารับคำปรึกษาทั้งหมด 51,574 คน แบ่งเป็นอายุน้อยกว่า 20 ปี จำนวน 8,445 คน ในจำนวนนี้เป็นการปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม 96.4% และกลุ่มที่อายุมากกว่า 20 ปี อีกจำนวน 43,129 คน ในจำนวนนี้เป็นการปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม 84%
ทั้งนี้ การจัดบริการสายด่วนท้องไม่พร้อม 1663 เป็นหนึ่งในแผนการขยายหน่วยบริการ มาตรา 3 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยขึ้นทะเบียนเป็น “หน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านขององค์กรภาคประชาชน” เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการผู้ใช้สิทธิบัตรทองทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางที่เข้าไม่ถึงบริการ ด้วยการรับบริการบางอย่างที่มีความจำเพาะ จำเป็นต้องใช้กลไกการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการจัดบริการที่ทำให้เกิดการเข้าถึง เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพ ซึ่งนำมาสู่การนำเสนอบอร์ด สปสช. เห็นชอบในวันนี้
หลังจากนี้ สปสช.จะประสานกับมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เพื่อให้มีการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งหลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว สปสช.จะแจ้งให้ประชาชนรับทราบในการใช้สิทธิบัตรทองเพื่อเข้ารับบริการสายด่วน 1663 ต่อไป
ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 และช่องทางออนไลน์ได้ที่ ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6, เฟซบุ๊ก : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
อ่านข่าว
