ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รีแอคชันหลังยุบ "ก้าวไกล" เราจะย้ายไปพรรคใหม่ด้วยกัน

การเมือง
7 ส.ค. 67
17:00
6,806
Logo Thai PBS
 รีแอคชันหลังยุบ "ก้าวไกล" เราจะย้ายไปพรรคใหม่ด้วยกัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ สั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ในคดีล้มล้างการปกครอง เข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินทางกลับหลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองโดยมีสีหน้าเรียบเฉยแต่ยังคงโบกมือให้สื่อมวลชนและหยุดทักทายมวลชนที่มาให้กำลังใจ

ยังไม่ขอพูดอะไร ให้ไปฟังการแถลงอีกครั้งที่พรรค ก่อนจะขึ้นรถตู้กลับออกไปทันที
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ส่วนบรรยากาศที่ห้องประชุมสภา สส.พรรคก้าวไกลถ่ายภาพหมู่ และกอดให้กำลังใจกัน ขณะที่ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค และหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง 10 ปี ปาดน้ำตาก่อนเดินออกจากห้องประชุม 

ส่วนบรรยากาศที่ทำการพรรคก้าวไกล ตึกอนาคตใหม่ ซอยรามคำแหง 40 มวลชนยังคงปักหลักบริเวณที่และเตรียมขึ้นชั้น 7 เพื่อรอฟังแกนนำพรรคแถลง เวลา 18.00 น.

มวลชนที่รอให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค

มวลชนที่รอให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค

มวลชนที่รอให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค

ก้าวไกล ไปต่อ-เราจะย้ายไปพรรคใหม่

นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวที่ เพจพรรคก้าวไกล -Move Forward Party ได้เปลี่ยน Cover โดยขีดค่าคำว่า "พรรค" และมีข้อความว่า "ก้าวไกล ไปต่อ" จากนั้นยังโพสต์ข้อความพร้อมึลิปความยาว 1.27 นาที ระบุว่าในโลกนี้มีบางอย่าง ที่ไม่อาจถูกทำลาย ไม่สูญสลาย มีแต่จะเติบโตต่อไปไม่หยุดยั้ง การเดินทางครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว เดินต่อไปด้วยกัน ประชาชน ซึ่งในคลิปมีการปล่อยเสียงสั้นๆ ของนายพิธา ระบุว่า

เราจะย้ายไปพรรคใหม่ด้วยกัน 

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล - Move Forward Party ยังนำคลิปในห้องประชุมสภา ระบุว่า ภายหลังทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 จนถึง 31 มี.ค.2567 เป็นเวลา 10 ปีว่า ตน, อภิชาติ ศิริสุนทร, เบญจา แสงจันทร์, สุเทพ อู่อ้น และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรได้อีกต่อไป

ขอบคุณประธานและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกัน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ใช้ช่วงเวลาในฐานะผู้แทนราษฎรทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันสิ่งที่เราคิดว่าเป็นอนาคตของประเทศ


สุดท้ายพวกคงไม่มีโอกาสร่วมทำงานกับทุกคนอีกต่อไปอย่างน้อย 10 ปี แต่ก็หวังว่าหลังจากนี้เพื่อนผู้แทนราษฎรจะสามารถใช้อำนาจหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะที่พี่น้องประชาชนเลือกเข้ามา เป็นสถาบันทางการเมืองเดียวในประเทศที่ถูกจัดตั้งโดยประชาชนอย่างคุ้มค่า และทำให้ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงที่ “อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

ด้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานในการประชุมสภาฯ กล่าวว่าสภาพการเป็น สส. ของตน สิ้นสุดเช่นเดียวกัน ขอขอบคุณและเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคน อยากบอกข้าราชการสภาฯ ทุกคนว่าตนเคารพและขอบคุณทุกคน ก่อนทิ้งท้ายอำนาจสูงสุดของประชาชน

ส่วนปฏิกิริยาของสมาชิกพรรคเช่น รังสิมันต์ โรม โพสต์เฟซบุ๊ก 
Rangsiman Rome ระบุว่า  ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน 

บ้านใหม่ยังสีส้ม

ด้าน น.ส.สิริลภัส กองตระการ โพสต์เฟซบุ๊ก ยังไง ก็ไปต่อ ถึงแม้ว่าหมิวจะไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมือง และจะไม่มีวันรู้สึกชินหรือคิดว่าการยุบพรรค การเมืองนั้นเป็นเรื่องปกติก็ตาม 

แต่หมิวก็ยังเชื่อว่า “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ” หมิวไม่ได้จะหมายความว่า การยุบพรรคนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หมิวเลือกที่จะมองในสิ่งที่เรายังมีอยู่และเราจะทำงานกับสิ่งที่เรายังมีอยู่อย่างไร

หมิวยังมีเรี่ยวแรง และความตั้งใจ ที่จะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎร
หมิวยังอยากผลักดันประเด็นสุขภาพจิต ให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของปัญหานี้และต้องแก้ไขให้ได้หมิวยังขอนำปัญหาของประชาชน เข้าสู่สภา เพื่อสะท้อนปัญหา ผ่านการอภิปรายในแต่ละครั้ง

สุขภาพจิตทุกช่วงวัย ความรุนแรงในครอบครัว คุณภาพชีวิต ความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ เรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไข ตราบใดที่หมิวยังคงมีโอกาสทำงานนี้อยู่ หมิวก็จะพยายาม ยกระดับ ผลักดัน วาระต่างๆเหล่านี้อย่างเต็มที่

และหมิวเชื่อว่า ยังมีประชาชนอีกหลายคน ยังคงมีความหวังและสนับสนุนพวกเราทุกคนอยู่ และนี่คือกำลังใจสำคัญที่ทำให้พวกเราสามารถเดินต่อไปได้ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคปัญหาอะไรก็ตาม

ถึงวันนี้ บ้านที่ชื่อว่า “ก้าวไกล” อาจจะถูกทุบทำลาย แต่ขอให้ประชาชนทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับหมิวมา เชื่อมั่นในตัวหมิวว่า ไม่ว่าบ้านหลังใหม่จะมีชื่อว่าอะไร ยังไงก็จะอยู่ภายใต้ “หลังคาสีส้ม” เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเจออะไร ยังไง....ก็ไปต่อ ขอให้ทุกคนไปต่อด้วยกันกับพวกเรานะคะ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง