กรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ไปเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ มารดาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า เหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากสถานะไม่เหมือนเดิม
วันนี้ (6 ส.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อกรณีดังกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไปในฐานะส่วนตัว และตัวเองก็ได้พบปะในหลายโอกาส ตัวเองสูญเสียมารดา ท่านก็มาให้กำลังใจ
ในวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เจอกับคนที่คุ้นเคยในสมัยที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี เรื่องนี้ คิดว่าทุกคนมีข้อคิดเห็นของแต่ละคน คงคิดได้เองอยู่แล้ว
ผู้สื่อถามว่า แม้เป็นการส่วนตัว แต่ดูเหมือนนายกรัฐมนตรี จะฟังคำแนะนำจากแค่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแค่ 2 คนนี้ จะมีการบาลานซ์อย่างไร
นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่จริง ก่อนหน้าเคยเจอนายนอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีก็รับฟัง และไม่ได้รับฟังแค่ระดับนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว รองนายกรัฐมนตรี หรืออดีตรัฐมนตรีต่างๆ ก็เจอ เช่นนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลังก็เจอ มองว่าแล้วแต่โอกาสมากกว่า
อ่านข่าว เปิด 2 พรรค (ดูด)ใหม่"พลังมหาชน-กล้าธรรม" กก.เทมาถิ่นกาขาว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการมองท่าทีของนายกรัฐมนตรี ในระยะหลังๆ มีการตีตัวออกห่างจากนายทักษิณ หรือไม่ ระบุว่า ตนเองไม่ได้ตีตัวออกห่างใครทั้งนั้น เพราะทำงานอย่างเดียว
แต่ถ้าการทำงาน และไม่สามารถไปพบบางท่านได้ ก็เชื่อว่าทุกท่านคงเข้าใจว่าผมมีหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ต้องทำงานอยู่แล้ว และลงพื้นที่ตลอด ทุกคนก็เห็นวันเสาร์ก็ยังทำงานอยู่
ส่วนในเดือน ส.ค.มีคดีต่าง ๆ ทางการเมืองจะส่งผลกระทบนักลงทุนเรื่องความเชื่อมั่นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการเช็กกระแส เพราะปัญหาของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งใช้เวลาส่วนมากเกือบทั้งหมดในการแก้ปัญหาอยู่
ส่วนกระแสจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ในเดือนส.ค.นี้ มีอีเว้นท์หลายเรื่อง ทั้งวันที่ 7 ส.ค.และ 14 ส.ค.นี้ แน่นอนก็เป็นธรรมดาที่นักลงทุนก็ต้องกังวล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าก็ได้มีการดูและเช็กตลาดหุ้นพบว่าขยับขึ้นมา เชื่อว่าน่าจะควบคุมได้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็ตกลงมามากเป็นประวัติศาสตร์ วันนี้ก็ขยับขึ้นมาแล้ว เข้าใจว่าขยับขึ้นมาถึง 10% แล้ว และเข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแพนิคเซลล์ โดยเชื่อว่าทางด้านประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว
อ่านข่าว “วิษณุ” มอง ทูต 18 ประเทศ คุย “พิธา” ปมยุบก้าวไกล ไม่ก้าวล่วงกิจการภายใน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พบกับอุปทูต 18 ชาติเข้าร่วมสังเกตการณ์คดียุบพรรค
"พิธา" ปมเชิญทูต 18 ชาติสังเกตคดียุบพรรค
นายเศรษฐา กล่าวถึงกรณีนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เชิญทูต 18 ประเทศมาร่วมสังเกตการณ์คดียุบพรรคก้าวไกล หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ว่า ไม่ทราบว่ามีการพูดคุยกันหรือไม่ และไม่ทราบเนื้อหาในการพูดคุยกัน
แต่เรื่องกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ใน 18 ประเทศ เรื่องระบบยุติธรรมและฝ่ายบริหารแยกกันชัดเจน ฝ่ายบริหารก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และกระบวนการยุติธรรมประเทศไทยมีความเป็นกลางและสากล ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
อ่านข่าว "ปดิพัทธ์" ชี้เป็นเรื่องปกติทั่วโลกจับตาคดียุบพรรค "ก้าวไกล"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนพูดแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ส่วนตัวเคารพในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกรณีของตนที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน แต่เมื่อมีประเด็น เรื่องร้องเรียนก็เป็นหน้าที่ที่ต้องแจ้งไปที่ระบบยุติธรรมและคอยการตัดสิน
ของผมเองคอยวันตัดสินวันที่ 14 ส.ค. ผมก็ไม่ได้มีการไปคุยกับใครทั้งสิ้น ประเทศเราก็เป็นเอกราช แต่ก็ต้องให้เกียรติเหมือนกัน เพราะไม่ทราบรายละเอียดสนทนาพูดคุยมีอะไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถาม มีความกังวลในเนื้อหาจากกระทรวงต่างประเทศส่งไปยังสหประชาชาติ เรื่องคดียุบพรรค พอแปลเป็นเนื้อความภาษาไทยมีข้อความค่อนข้างรุนแรง นายเศรษฐา เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกัน ในเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศมีการชี้แจงไปยังสหประชาชาติ
ส่วนการแปลให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงดีกว่าว่าแปลอะไร แต่จุดยืนจริง ๆ ของเรา ไม่ยอมให้ก้าวก่ายในระบบตุลาการ และไม่ยอมให้ใครมาก้าวก่าย ซึ่งกระทรวงต่างประเทศจะมีการแถลงบ่ายนี้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ เกี่ยวกับเหตุการณ์วันพรุ่งนี้ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลกับเหตุการณ์พรุ่งนี้ และมั่นใจว่าทุกคนตั้งอยู่ในความสงบและยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว
อ่านข่าว : ตื้นตัน! ปธ.วุฒิสภาน้ำตาไหล สว.แดงถกปมเงินหมื่นแทนใจชาวบ้าน