วันนี้ (6 ส.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ช่วงหนึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงต่อสมาชิกวุฒิสภา ยืนยันว่า การดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และย้ำความจำเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร่งด่วน พร้อมชี้แจงว่าร้านหาบเร่แผงลอยสามารถขึ้นทะเบียนได้ หรือร้านค้าที่ไม่ได้ลงทะเบียนระบบภาษีก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่จะไม่สามารถเป็นผู้คืนเงินสดได้ เพียงแต่นำเงินดิจิทัลหมุนในระบบ
ส่วนตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการฯ อยู่ที่การกระตุ้นเศรษฐกิจ การเรียนรู้และเกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะต้องวัดหลังจากมีการเดินหน้าโครงการ การที่ประชาชนได้ลงทะเบียนแล้วกว่า 25 ล้านคนที่จะต้องตรวจสอบตามเงื่อนไขโครงการก่อน และมีร้านค้าแสดงเจตจำนง 100,000 ร้านค้าและร้านค้าเล็กอีก 500,000 ราย ส่วนร้านธงฟ้าลงทะเบียนแล้ว 20,000 ร้านค้า
นายจุลพันธ์ ย้ำว่า เงิน 500,000 ล้านบาทจะไม่หายไปไหน แต่จะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการหมุนเวียนในระบบ และชี้แจงถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขการใช้เงินต้องการให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าที่เกิดการผลิตและการจ้างงานภายในประเทศ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญ หากมีเงื่อนไขให้ซื้อมือถือก็จะทำให้เงินไหลไปต่างประเทศ และสาเหตุที่ไม่สามารถเป็นค่าน้ำมันหรือค่าเล่าเรียนได้ เพราะภาครัฐมีกลไกช่วยเหลืออุดหนุนในประเด็นเหล่านี้แล้ว รวมถึงมีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาแล้วเช่นกัน
พร้อมชี้แจงถึงการเดินหน้าโครงการ มีกระบวนการตรวจสอบสิทธิ์ของประชาชน และยืนยันว่าแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวเรื่องเงินฝากของประชาชน เพราะเมื่อประชาชนกดปุ่มเข้าร่วมโครงการ ระบบจะส่งคำถามไปยังหน่วยงานรัฐที่มีข้อมูลอยู่ เช่น กรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบว่ามีรายได้เกินกว่าเกณฑ์หรือไม่ และระบบจะส่งคำตอบกลับมาว่า YES หรือ NO เท่านั้น โดยยืนยันว่าระบบปลอดภัยและการดำเนินเชื่อมต่อกับธนาคาร กลุ่มวอลเล็ตก็มีความมั่นคงปลอดภัย มีระยะเวลาทดสอบระบบอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล
ตัวแอปฯ ไม่สามารถส่งคำสั่งไปยังธนาคารได้ เราไม่ได้ล้วงเข้าไปในระบบ เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่จะมีคำสั่งแปลก ๆ ไปยังธนาคาร ซึ่งระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงปลอดภัยระดับหนึ่ง ยืนยันว่าหากสิ่งที่ส่งไปให้เขาในการเชื่อมต่อกับธนาคารหากไม่มีความปลอดภัย เขาก็จะไม่เชื่อม
รมช.คลัง ยังชี้แจงกรณีการขึ้นเงินของร้านค้าและร้านค้าขนาดเล็ก ว่า เป็นข้อห่วงใยและรับเรื่องไว้ไปพิจารณาดำเนินการ และยืนยันว่าเงินสดไม่ได้หายไปจากระบบเศรษฐกิจ เพราะในระบบเศรษฐกิจยังมีอีก 10 ล้านล้านบาท เชื่อว่าร้านค้าจะสามารถบริหารเงินได้ ทั้งที่จะแลกเงินสดหรือใช้ระบบเงินดิจิทัล
อ่านข่าว
"ประกันสังคม" แจงสิทธิกรณีเจ็บป่วยรักษา - บำนาญชราภาพ
ตื้นตัน! ปธ.วุฒิสภาน้ำตาไหล สว.แดงถกปมเงินหมื่นแทนใจชาวบ้าน
ก.พ.ค.ตร.ยกอุทธรณ์ "บิ๊กโจ๊ก" ชี้คำสั่งให้ออกราชการชอบด้วยกฎหมาย