วันนี้ (31 ก.ค.2567) นายสมรักษ์ คำสิงห์ และนายพิเชษฐ์ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางไปศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อรายงานตัวและเข้าสู่การสอบพยานนัดแรก หลังอัยการจังหวัดขอนแก่นยื่นฟ้องทั้ง 2 คน ในฐานความผิด ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย,
ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยการใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
ในท้ายคำฟ้อง พนักงานอัยการจังหวัดขอนเเก่น ยังขอให้นับโทษนายสมรักษ์ จำเลยที่ 1 ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย
นายสมรักษ์ เปิดเผยว่า เดินทางมาที่ศาลทุกนัดและไม่มีความหนักใจในเรื่องคดี เพราะมั่นใจว่าไม่ได้กระทำความผิด โดยพยานหลักฐานต่างๆ ที่ฝ่ายตนเองมีมั่นใจว่าจะสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองได้ แต่ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียดและเชื่อมั่นในกระบวนการความยุติธรรม
ส่วนของคดีของศาลจังหวัดร้อยเอ็ดนั้น ตนเองและทนายความสงสัยว่าเอามาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร แต่ทั้งนี้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งไม่มีความวิตกกังวลหรือหนักใจในเรื่องคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 9 ธ.ค.2566 นายสมรักษ์ได้เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น จากนั้นได้รู้จักกับเยาวชนหญิงอายุประมาณ 17 ปี 10 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นนายสมรักษ์ได้สอบถามอายุ ด้านผู้เสียหายบอกว่าอายุ 17 ปี และเมื่อสถานบันเทิงปิด นายสมรักษ์ได้พาเยาวชนไปที่ห้องพักโรงแรมและได้กระทำอนาจาร แต่เมื่อสอบถามอายุอีกครั้ง เยาวชนก็ยืนยันว่าอายุ 17 ปี จึงได้หยุด ก่อนที่เยาวชนหญิงจะโทรศัพท์ให้เพื่อนมารับและไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
อ่านข่าว
จับ "อัยการ" นครศรีฯ เรียกเงินแลกไม่สั่งฟ้อง