วันนี้ (31 ก.ค.2567) อินเดียประสบภัยพิบัติครั้งรุนแรง หลังฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ ฝนกระหน่ำครั้งนี้ทำให้ดินถล่ม มีรายงานผู้เสียชีวิต แล้ว 123 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งฝนกระหน่ำ ลมกระโชกแรง และถนนหนทางถูกตัดขาด
เจ้าหน้าที่ต้องใช้ทั้งเรือยาง รวมไปถึงใช้ซิปไลน์เพื่อขนคนและอุปกรณ์ข้ามกระแสน้ำเชี่ยวกราก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีประมาณ 350 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของไร่ชาและกระวานหลายแห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นคนทำงานในพื้นที่ดังกล่าว และขณะเกิดเหตุดินถล่มหลายคนกำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ชั่วคราวจึงทำให้ไม่สามารถหนีออกมาได้ทัน
ทางการของอินเดีย คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากยังมีประชาชนอีกประมาณ 100 คน ติดอยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ด้านการกู้ภัยยังไม่สามารถเข้าไปได้
นอกจากนี้ยังได้มีการส่งกำลังทหารมากกว่า 200 นายเพื่อช่วยเหลือในภารกิจค้นหาและกู้ภัย และโรงพยาบาลในพื้นที่กำลังทำการรักษาผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 123 คน และได้อพยพยประชาชนในพื้นที่ประสบภัยกว่า 3,000 คนกระจายไปยังศูนย์บรรเทาทุกข์ 45 แห่ง
ขณะนี้พื้นที่ประสบภัยและพื้นที่โดยรอบยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะยังคงมีฝนตกหนัก โดยโรงเรียนและวิทยาลัยใน 10 จาก 14 เขตของรัฐได้งดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวแล้ว
ด้านนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยืนยันว่า รัฐบาลกลางจะให้ความช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และประกาศมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 200,000 รูปี หรือประมาณ 85,000 บาท และจะมอบเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บคนละ 50,000 รูปี หรือราว 21,000 บาท
เหตุดินถล่มครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในรัฐเกรละ นับตั้งแต่ปี 2018 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 400 คน ซึ่งรัฐนี้ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงเผชิญฝนตกหนักและน้ำท่วม โดยเฉพาะฤดูมรสุมระหว่างเดือน มิ.ย.- ก.ย. ถือเป็นช่วงที่เกิดน้ำท่วมและดินถล่มบ่อยครั้ง แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์ภัยพิบัติเลวร้ายมากขึ้น โดยมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
อ่านข่าว : จังหวะเปะ ภาพถ่ายนักเซิร์ฟบราซิล เหมือนเดินบนอากาศ