นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สดร. เปิดเผยว่า ช่วงก่อนรุ่งเช้า ในวันที่ 25 ก.ค.2567 จะเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ (Lunar Occultation of Saturn) ขณะเริ่มเกิดปรากฏการณ์วัตถุทั้งสองจะปรากฏอยู่บริเวณกลางท้องฟ้า โดย "ดาวเสาร์" จะปรากฏใกล้กับส่วนสว่างของ "ดวงจันทร์"
ดาวเสาร์จะเริ่มสัมผัสขอบดวงจันทร์ฝั่งเสี้ยวสว่างและค่อย ๆ ลับหายไปด้านหลังของดวงจันทร์ เวลาประมาณ 03.09 น. และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงอีกครั้งในฝั่งพื้นผิวส่วนมืด เวลาประมาณ 04.27 น. (ข้อมูลดังกล่าวคำนวณจากพื้นที่ กรุงเทพมหานคร หากสังเกตการณ์ในพื้นที่อื่น ช่วงเวลาของการบังอาจจะเริ่มและสิ้นสุดไม่พร้อมกัน) สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทุกจังหวัดทั่วไทย
ทั้งนี้ หากมองด้วยตาเปล่าจะสังเกตเห็นเป็นจุดดาวเล็ก ๆ เคลื่อนหายไปหลังดวงจันทร์ แต่หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์จะสังเกตเห็นรายละเอียดดาวเสาร์พร้อมวงแหวนค่อย ๆ ลับหายไปหลังดวงจันทร์ และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงได้อย่างชัดเจน
การบังกันของวัตถุท้องฟ้า (Occultations) เป็นปรากฏการณ์ที่วัตถุท้องฟ้าหนึ่งเคลื่อนที่ผ่านหน้ามาบังอีกวัตถุหนึ่งเมื่อสังเกตจากแนวสายตา อาทิ ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ ดวงจันทร์บังดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บังดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บังกันเอง เป็นต้น
ทั้งนี้ สามารถใช้ปรากฏการณ์นี้คำนวณหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ คำนวณหาระยะห่างระหว่าง "โลก" กับ "ดวงจันทร์" ตรวจหาและศึกษาโครงสร้างของชั้นบรรยากาศ รวมถึงการใช้ตรวจหาวงแหวนของดาวเคราะห์ชั้นนอกได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อวงการวิจัยดาราศาสตร์
ปรากฏการณ์ "ดวงจันทร์บังดาวเสาร์" ในปีนี้เกิดขึ้น 2 ครั้งต่อไป ตรงกับวันที่ 15 ต.ค.2567 ในช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 02.19 - 03.00 น. สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในพื้นที่ภาคเหนือ บางส่วนของภาคกลาง บางส่วนของภาคตะวันตก และบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ข้อมูลดังกล่าวคำนวณจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หากสังเกตการณ์ในพื้นที่อื่น ช่วงเวลาของการบังอาจจะเริ่มและสิ้นสุดไม่พร้อมกัน) ติดตามข้อมูลปรากฏการณ์เพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 02.30 น. เป็นต้นไป
อ่านข่าว : ดีเดย์ 1 ส.ค.-15 ก.ย.67 ประชาชนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต