วันนี้ (21 ก.ค.2567) กรณีนายบุญมา หรือ "เฮียตุ้ง" ทะเลาะกับบุคคลภายในบ้าน ก่อนจะใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม เสียชีวิต และ ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ย่านพระราม 2
ล่าสุดได้รับการยืนยันจากตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในที่เกิดเหตุว่า ผู้ก่อเหตุ "เสียชีวิต" แล้วหลังเจ้าหน้าที่ใช้ระเบิดเสียงจำนวน 3 ลูก ขว้างเข้าไปในบ้านพักที่ผู้ก่อเหตุซ่อนตัว กระทั่งเวลาประมาณ 05.50 น. พบร่างผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิตบริเวณชั้นลอยของตัวบ้าน และพบอาวุธปืนไม่ทราบขนาดตกอยู่ข้างศพ 1 กระบอก
สาเหตุและเวลาของการเสียชีวิตนั้น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่าต้องรอผลตรวจจากนิติเวช แต่ยืนยันว่าการปฏิบัติการในครั้งนี้ตลอดทั้ง 9 ชั่วโมง เป็นไปตามยุทธวิธี
พบผู้ก่อเหตุป่วยจิตเวช-ใช้ปืนทำร้ายลูก
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2567 เวลา 21.35 น. ตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุว่า มีชายหัวร้อนและมีอาวุธปืนจับ "ลูก" เป็นตัวประกันภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านดีเค ถ.กาญจนา-พระราม 2 จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนออกมา ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.สหวิทยาการมะลิ ต่อมาพบว่ามี ตร.เสียชีวิต 1 คน คือ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.สน.ท่าข้าม ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม
ด้านผู้ก่อเหตุอยู่ภายในบ้านพัก และ ตร.ได้กันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปพื้นที่ ส่วนสมาชิกครอบครัวของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวออกมาจากบ้านพักแล้ว
นายสุวิทย์ โพธิ์สุข เจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ก็เข้ามาตรวจสอบตามพิกัด พบตำรวจนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ขณะที่ภายในบ้านพบ ลูกสาวของผู้ก่อเหตุถูกพ่อใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ทำร้ายบริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวจำนวน 4 คน ออกมาจากบ้านพักหลังดังกล่าว
ลูกสาวให้ข้อมูลว่าพ่อมีอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก คือ ขนาด .38 มม., ขนาด .9มม., ขนาด 11 มม. และปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งไว้ในครอบครอง
ขณะที่ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบว่าเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุจากตำรวจว่า ต้องการสนับสนุนรถพยาบาลไปส่งผู้ก่อเหตุซึ่งป่วยจิตเวช แต่เมื่อมาถึงบ้านหลังดังกล่าวกลับถูกผู้ก่อเหตุ ข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธปืนทำร้าย
ใช้ยุทธวิธี "เบาไปหนัก" กล่อมชายยิง ตร.ตาย
ต่อมาเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันนี้ (21 ก.ค.2567) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงพื้นที่เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจากับผู้ก่อเหตุ โดยใช้เครื่องขยายเสียงเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้ยอมมอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณชั้นลอยของบ้าน และมีการใช้ปืนยิงสวนตำรวจเป็นระยะ ตำรวจยังสามารถคุมสถานการณ์ได้โดยรอบ และไม่ได้ยิงตอบโต้ เนื่องจากเกรงประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงจะถูกลูกหลง ก่อนที่เสียงปืนจะเงียบหายไปในเวลาประมาณ 02.39 น. และคอยประเมินสถานการณ์เป็นระยะ โดยจะใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก
กระทั่งเวลาประมาณ 05.20 น. เจ้าหน้าที่ได้ใช้ระเบิดเสียงจำนวน 3 ลูก ขว้างเข้าไปในบ้านพักที่ผู้ก่อเหตุซ่อนตัวอยู่ จนกระทั่งในเวลาประมาณ 05.50 น. พบผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณชั้นลอยของตัวบ้าน
นอกจากนี้มีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุชอบสะสมปืน และเคยฝึกยิงปืน โดยปืนที่ครอบครองเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ ขอตรวจสอบให้แน่ชัด ยืนยันพร้อมเยียวยาครอบครัว พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ผู้เสียชีวิต อย่างเต็มที่
อ่านข่าวอื่น :