"จุรินทร์" ชี้ รบ.ตีความเงิน 1.22 แสนล้านเป็นเงินลงทุน เสี่ยงขัด กม.

การเมือง
17 ก.ค. 67
12:03
236
Logo Thai PBS
"จุรินทร์" ชี้ รบ.ตีความเงิน 1.22 แสนล้านเป็นเงินลงทุน เสี่ยงขัด กม.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"จุรินทร์" อภิปรายงบกลางปี 2567 ชี้ ตีความเงิน 1.22 แสนล้าน ส่วนหนึ่งเป็นเงินลงทุนเสี่ยงขัดต่อกฎหมาย วินัยการเงินการคลัง ม.20 ชี้กู้เพิ่มแม้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจไม่นาน แต่ต้องใช้หนี้ใช้ดอกอีกนาน

วันนี้ (17 ก.ค. 67) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 เพิ่มเติม 1.2 แสนล้านบาท โดยเปรียบเทียบกับการแจกของรัฐบาลสิงคโปร์ว่าเป็นคนละอย่าง เนื่องจากของไทยการกู้มาแจก ขณะที่ของสิงคโปร์มีงบประมาณเหลือเพียงพอที่จะสามารถแจกประชาชนได้

วันนี้ยังคงทวงถามรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งถึงสัญญาการหาเสียงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พร้อมกับทำหน้าที่กระจกเงาสะท้อนตัวตนของรัฐบาล รวมถึงผลที่ตามมาของโครงการดังกล่าว

นายจุรินทร์ ยังหยิบยกความล่าช้าของโครงการ โดยเปรียบเพราะ “ความโหลยโท่ยของรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดินเหมือนเด็กเล่นขายของ เป็นไม้หลักปักขี้เลน โอนไปเอนมาเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้” ตั้งแต่ที่มาของแหล่งงบประมาณและการเลื่อนดำเนินโครงการ งบประมาณยังล่องลอยอยู่ในอากาศ เพราะงบประมาณ 2 ก้อนคือจากงบประมาณปี 2567 และงบประมาณปี 2568 จำนวน 4.5 แสนล้านบาท ยังต้องรอความชัดเจน รวมถึงเงื่อนไขการดำเนินการที่ยังไม่ชัดเจนเรียกว่าคิดไปทำไปและยังเกิดเหตุการณ์สวนกันมาสวนกันไปของคนในรัฐบาลเอง

นายจุรินทร์ ยังหยิบยกงบงบประมาณรายจ่ายงบกลางปีงบประมาณ 2567 โดยเฉพาะงบฉุกเฉิน ซึ่งใช้ไปเพียงกว่า 3,000 ล้านบาทเท่านั้นจากงบประมาณ 95,000 ล้านบาท เพื่อให้เงินก้อนนี้เหลือใช้นำไปแจก 43,000 ล้านบาท และงบประมาณปี 2568 จำนวน 132,300 ล้านบาท ย้ำถามว่า รัฐบาลจะนำงบจำนวนนี้มาจากแหล่งใด จะใช้กลไกกรรมาธิการเสียงข้างมากตัดจากงบต่าง ๆ และใช้มติ ครม.นำกลับไปใส่ในงบกลางหรือไม่

พร้อมกันนี้อ้างถึง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีเพิ่มเติมปี 2567 ว่ามีเนื้อหาเพียง 6 ม.แต่ขอวงเงิน 122,000 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้เพียง 10,000 ล้านบาท ซึ่งหากจะอนุมัติ พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเท่ากับว่าเป็นการอนุมัติให้รัฐบาลกู้เงินชดเชยอีก 112,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแจกสนองนโยบายของรัฐบาล ส่วนใช้หนี้ทั้งต้นทั้งดอกเป็นเรื่องของอนาคต

นอกจากนี้ ยังอ้างถึงรายจ่ายลงทุนที่กำหนดใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากเนื่องจากงบฉบับนี้ระบุรายจ่าย 122,000 ล้านบาท ที่ระบุว่า รายจ่ายประจำร้อยละ 20 หรือ 24,400 ล้านบาทเป็นรายจ่ายประจำแต่รายจ่ายลงทุนร้อยละ 80 หรือจำนวน 97,600 ล้านบาท เหตุใดรัฐบาลถึงตีความว่ารายจ่ายลงทุนเพราะว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เงินลงทุนแต่เป็นเงินโอนเพื่อบริโภค

การไปวินิจฉัยเองว่า 122,000 ล้านบาทเท่ากับเงินลงทุนร้อยละ 80 นี่มันคาบลูกคาบดอกไปหน่อยมั้ย แล้วสุดท้ายอาจจะนำไปสู่ความเสี่ยง พ.ร.บ.การเงินการคลังมาตรา 20 (1) ต่อไป ผมเข้าใจว่ารัฐบาลพยายามใส่ฟองสบู่ให้เห็นว่า เงินที่ขอกู้วันนี้จริง ๆ เอาไปลงทุนเยอะไม่ได้เอาไปบริโภคอย่างเดียว แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในการพัฒนาต่อไปแต่มันหนีความจริงไม่พ้นว่าที่ นำไปแจกให้ไปบริโภคไม่เช่นนั้นจะกำหนดสินค้าทำไม

นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับความคุ้มค่าที่รัฐบาลย้ำมาหลายครั้งว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้เศรษฐกิจโต 5% และทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ภายใน 6 เดือน แล้วจะทำให้จีดีพีดิจิทัลวอลเล็ตโต 1.2-1.8

แต่มองสวนทางกันว่าโครงการนี้ได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งได้ไม่คุ้มเสียไม่แค่เพียงตัวเลขที่รัฐบาลบอกเท่านั้น แต่ยังมีค่าเสียโอกาสหากรัฐบาลนำเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท ไปดำเนินการดำเนินการอย่างอื่นได้มากกว่านี้เช่น นำไปแจกกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนจน จะทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนทันที และนำเงินก้อนที่เหลือไปลงทุนด้านอื่นเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากกว่า เช่นลงทุนโครงสร้างพื้น สร้างคนในระบบเศรษฐกิจ สร้างคนในระบบการศึกษารองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่

การกู้มาจ่ายใน 6 เดือนเหมือนโยนหิน ลงน้ำหนึ่งก้อน เกิดแรงกระเพื่อมครั้งเดียวก็หายไป แต่ที่จะเกิดตามมาก็คือพายุหมุนแต่เป็นพายุหมุนที่หมุนนำหนี้ก้อนโตมาให้คนไทยต้องชดใช้ไปอีกนานเท่านาน เข้าทำนองประเทศเสียหายไม่ว่า ขอให้ข้าได้หาเสียง ที่พวกเราได้พูดกันอยู่ในสภา

สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงเรื่องความไม่โปร่งใสว่า ขอเตือนรัฐบาลให้ระวัง อย่าให้แรงกู้ครั้งนี้เป็นแรงกู้ไร้อนาคตเพราะการทุจริตคอรัปชันเป็นอันขาดเพราะขณะนี้ยังมีคำถามจากประชาชน เช่นเหตุใดไม่แจกบุคคลตั้งแต่อายุ 13 ปีเป็นต้นไป

พร้อมยังตั้งข้อสังเกตว่า การแจกผู้ที่อายุ 16 ปี ทำให้อีก 2 ปี ก็จะสามารถลงคะแนนได้ หากแจกเด็กอายุ 13 ก็อาจจะเสียของ จึงเห็นว่าเหตุผลนี้เป็นคำตอบ 

นายจุรินทร์ ทิ้งท้ายว่าขอให้รัฐบาลได้รับทราบ map มีการเปลี่ยนไปใช้แอปฯทางรัฐแต่ดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นทางรอดของคนจนและกลุ่มเปราะบางชั่วคราวเท่านั้น แม้จะเป็นทางรอดของพรรคการเมืองแต่ไม่ใช่ทางรอดของประเทศ

 อ่านข่าว : "เศรษฐา" ยืนยันจำเป็นกระตุ้น ศก. ปมตั้งงบรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.22 แสนล้าน

สภาฯเตรียมถกร่างงบฯปี 67 เพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน 17 ก.ค.นี้

"จักรพงษ์" แจงหั่นงบกลาง 43,000 ล้าน ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง