วันนี้ (17 ก.ค.2567) กรณีปัญหาวุฒิการศึกษาของ พญ.หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ "หมอเกศ" สว.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีราย งานในส่วนของ กกต. ขณะนี้พบว่ามีการรับ 2 คำร้องที่ขอให้ตรวจสอบว่าการที่ พญ.เกศกมล ระบุประวัติการศึกษาว่าเป็นศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกจาก California University ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3)
เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอกลวง จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณเพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ตนตามมาตรา77 (4) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561หรือไม่
เป็นสำนวนเพื่อดำเนินการตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2566 โดยเลขาธิการฯกกต.มีคำสั่งรับเป็นสำนวนเมื่อวันที่ 1ก.ค.ที่ผ่านมา และอีกคำร้องกกต.มีมติสั่งรับเป็นสำนวนเมื่อวันที่ 5 ก.ค.67
ส่วนที่ กกต.ประกาศรับรองพญ.เกศกมล ให้เป็น สว. เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่รับ 2 คำร้องดังกล่าวเป็นสำนวนแล้ว แหล่งข่าวระบุว่า เนื่องจากตามกฎ หมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร สว.ว่าต้องมีวุฒิการศึกษาระดับใด
พญ.เกศกมล จึงไม่มีประเด็นที่ถูกร้องเรื่องขาดคุณสมบัติ แต่เป็นการกล่าวหาว่าข้อมูลประวัติการศึกษาในใบ สว.3 เป็นการหลอกลวงให้ลงคะแนนเลือก
อ่านข่าว "เกศกมล" ใช้ "ศาสตราจารย์" ไม่ได้ ขีดเส้นส.ค.จบสอบ "วุฒิปลอม
พญ.หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ
ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ หาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ โดยต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องให้ความธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาตามที่ระเบียบกกต. กำหนด กกต.จึงประกาศรับรอง พญ.เกศกมล ไปก่อน และขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนไต่สวนตามคำร้อง
ทั้งนี้ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ปี 2561 มาตรา77 กำหนดไว้ว่าผู้ใด กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (4) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณ สมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด
อ่านข่าว "ศุภมาส" สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี ม.เอกชน ซื้อขายวุฒิปริญญา
เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
อ่านข่าวอื่นๆ
กรมประมง แถลงปมปลาหมอคางดำระบาด เปิด 6 มาตรการเร่งด่วน
นักอาชญาวิทยาไขปม “ยาพิษ” ฆาตกรรม 6 ศพโรงแรมหรู