วันนี้ (16 ก.ค.2567) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) วางแผนร่วมกับตำรวจ เปิดปฎิบัติการเสือล่าเสือ ด้วยการวางแผนล่อซื้อ และจับขบวนการค้าเสือยึดของกลางลูกเสือ 2 ตัวในพื้นที่ อ.สังขะ จ.สุรินทร์
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ลูกเสือทั้ง 2 ตัวถูกลำเลียงมาจากสวนเสือแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เป็นลูกเสือโคร่งตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 1 ตัวถูกใส่กรงเดียวกัน พบว่าลูกเสือมีภาวะขาดน้ำ และท้องเสีย ซึ่งสายลับได้ล่อซื้อลูกเสือในราคา 350,000 บาทและคนที่จัดหาซื้อมาจากฟาร์มเสือในราคา 200,000 บาทโดยมีหลักฐานจากการแชตไลน์ตกลงราคาซื้อขายชัดเจน
ลูกเสือโคร่ง 2 ตัวที่ถูกล่อซื้อพบส่งมาจากฟาร์มแห่งหนึ่งในอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
สายลับล่อซื้อ "ลูกเสือ" พบมาจากฟาร์มดังชลบุรี
ขณะเดียวกันนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งการหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งเข้าตรวจสอบสวนเสือทุกแห่ง หากพบการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ให้มีการควบคุมการเพิ่มจำนวนเสืออย่างเข้มงวด
โดยเฉพาะกรณีที่มีพฤติกรรมลักลอบนำเสือไปขาย ให้พิจารณาใช้อำนาจหน้าที่ในการพักและเพิกถอนใบอนุญาต ไปถึงการบังคับใช้กฎหมายทันที โดยเฉพาะให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 เข้าตรวจสอบพิกัดฟาร์มเสือในพื้นที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากตามเป้าหมายจะมีการซื้อขายกันถึง 6 ตัว
ผงะซุกงาช้างเอเชีย-งาช้างแอฟริกามูลค่า 3 ล้าน
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากยึดลูกเสือโคร่งได้แล้ว ยังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังแอบลักลอบขนงาเอเซีย 4 กิ่ง น้ำหนักรวม 48 กก. และงาช้างแอฟริกา 26 ท่อน น้ำหนักรวม 49.8 กก. และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง 19 รายการ น้ำหนักรวม 897 กรัมรวมมูลค่า 3 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่แกะรอยขบวนการนี้มานานเกือบ 2 ปี และรอบนี้จัดทีมเฝ้ามา 10 วันพบว่าที่เป็นเครือข่ายค้าสัตว์ป่าระดับชาติที่มีนักการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติหนุนหลัง ตอนนี้เร่งขยายผลให้ได้ตัวคนร่วยมขบวนการ
งาช้างแอฟริกา และงาช้างไทยของกลางที่ยึดได้มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขอหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบบ้านพัก หรือสถานที่ ต้องสงสัยที่คาดว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าเสือ และขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้
พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ดม ซึ่งร่วมวางแผนตั้งแต่ต้น อยู่ระหว่างสอบปากคำเบื้องต้น ระบุว่ายังมีเสือ และงาช้าง ที่เป็นเป้าหมาย เจ้าหน้าที่กำลังติดตาม เบื้องต้นพบว่าลูกเสือลำเลียงมาจาก จ.ชลบุรี
กรมอุทยานฯ-ตำรวจสุรินทร์-บก.ปทส.ล่อซื้อลูกเสือโคร่ง แต่ได้ของกลางงาช้าง
แจ้ง 5 ข้อหา 2 ผู้ต้องหาลอบค้าเสือ-ค้างาช้าง
กรณีเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลักลอบค้าเสือข้ามชาติ ทั้งลูกเสือ เสือโตเต็มวัย รวมถึงเนื้อเสื้อชำแหละ จึงวางแผนล่อซื้อ ในระหว่างเจรจาของสายลับมีการเสนอขายงาช้าง โดยอ้างว่ามีงาช้างอีกหลายตันจนนำมาสู่การวางแผนล่อซื้อ จนจับและยึดของกลางได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้รวม 5 ข้อหาดังนี้
- ฐาน “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามม.17 และม.92 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
- ฐาน “ร่วมกันค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 29 และมาตรา 89 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
- ม.116 บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้ง กับ พ.ร.บ.นี้
- ทั้งนี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ
- ฐาน “ร่วมกันค้างาช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 4 ประกอบม. 13 ตามพ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558
- ฐาน “ร่วมกันครอบครองงาช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามม.6 ประกอบม. 14 และม.16 ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึด จับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดม ส่วนลูกเสือโคร่ง ส่งมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ดูแลต่อไป