ดัน "หอมมะลิไทย" เจาะตลาดข้าวฟิลิปปินส์ ชิงส่วนแบ่งเวียดนาม

เศรษฐกิจ
10 ก.ค. 67
12:41
632
Logo Thai PBS
ดัน "หอมมะลิไทย" เจาะตลาดข้าวฟิลิปปินส์  ชิงส่วนแบ่งเวียดนาม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พาณิชย์จับมือผู้ส่งออกข้าว เจาะตลาดฟิลิปปินส์ ประเดิม MOU ซื้อ-ขายข้าว 130,000 ตัน มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท รอรัฐบาลฟิลิปปินส์นัดถกแก้กฎหมายให้ NFA นำเข้าข้าวในภาวะฉุกเฉิน

วันนี้ (10 ก.ค.2567) นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดข้าวทั่วโลก มีการแข่งขันสูงขึ้นทั้งในแง่ของราคาและคุณภาพ ซึ่งคุณภาพข้าวไทยเป็นอันดับหนึ่งที่ลูกค้าต่างชื่นชอบ แต่ในแง่ของราคา อาจจะเป็นอุปสรรคในการซื้อขายและขยายตลาด และเสี่ยงต่อการสูญเสียตลาดข้าวให้กับคู่แข่งได้ในอนาคต

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ดังนั้นเพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทย กรมฯได้เดินหน้าเจรจากับตลาดผู้นำเข้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จีน แอฟริกา อินโดนีเซีย ฮ่องกง สหรัฐฯ รวมถึงฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะตลาดฟิลิปปินส์ มีรายงานว่าในปี 2567 ฟิลิปปินส์มีความต้องการนำเข้าข้าวสูงถึงประมาณ 4.1 ล้านตัน

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จึงได้จัดคณะผู้แทนการค้าข้าวไทย ร่วมกับภาคเอกชน อย่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวเดินทางไปฟิลิปปินส์ช่วงต้นเดือนก.ค. เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและลงนาม MOU กับผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ จำนวน 9 ฉบับ ปริมาณรวม 130,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

นอกจากการลงนาม MOU ซื้อ-ขายข้าวแล้ว กรมฯ ยังร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กรุงมะนิลา เชิญผู้นำเข้า ผู้ค้าข้าว ห้าง และร้านค้าปลีก ผู้ประกอบการค้าข้าวรายสำคัญและผู้แทนหน่วยงานภาครัฐของฟิลิปปินส์ รวมถึงสื่อและ Influencers กว่า 70 ราย เข้าร่วมกิจกรรมประชา สัมพันธ์ข้าวไทยภายใต้คอนเซป Premium Thai Rice with Authentic Thai Food ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับตรา Thai SELECT ด้านอาหารไทยในการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นให้เกิดค่านิยมในการบริโภคข้าวไทยในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ข้าวหอมมะลิไทยที่มีจุดเด่นในเรื่องรสชาติอร่อย มีความหอมและนุ่มเป็นเอกลักษณ์ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษที่มีสีสันสวยงามและคุณค่าทางโภชนาการสูง แสดงให้เห็นว่าข้าวไทยมีความหลากหลายและสามารถตอบสนองความต้องการบริโภคข้าวของชาวฟิลิปปินส์ได้เป็นอย่างดี
การค้าและลงนาม MOU กับผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ จำนวน 9 ฉบับ ปริมาณรวม 130,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

การค้าและลงนาม MOU กับผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ จำนวน 9 ฉบับ ปริมาณรวม 130,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

การค้าและลงนาม MOU กับผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ จำนวน 9 ฉบับ ปริมาณรวม 130,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เข้าพบหน่วยงาน National Food Authority (NFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการบริหารจัดการสต็อกข้าวของฟิลิปปินส์ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดข้าว รวมถึงนโยบายการลดภาษีนำเข้าข้าวจาก 35% เหลือ15% ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. 2567 ไปจนถึงสิ้นปี 2571

โดยจะมีการทบทวนอัตราภาษีนำเข้าข้าวทุก 4 เดือน นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการแก้กฎหมายของรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ NFA สามารถนำเข้าข้าวในภาวะฉุกเฉินได้ ซึ่งขณะนี้กฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ให้ความเชื่อมั่นว่าไทยมีความพร้อมในการส่งออกข้าวเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของฟิลิปปินส์

การเดินทางไปฟิลิปปินส์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าข้าวไทยมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ ความหลากหลายและรสสัมผัสที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ มั่นใจว่าจะช่วยขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวในฟิลิปปินส์ให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับสถิติการส่งออกข้าวไทยไปยังฟิลิปปินส์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.–มิ.ย.) ประมาณ 299,787 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 381.66 และมีมูลค่าประมาณ 5,978 ล้านบาท (ประมาณ 167 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 558.97

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวกับ "ไทยพีบีเอสออนไลน์" ว่า ขณะนี้ราคาข้าวไทย FOB ลดลงมาอย่างมาก โดยราคาข้าวขาว 5% ลดลงจาก 605 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เหลือ 560-570 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวเวียดนาม จากเดิม 580-575 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เหลือ 530-535 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า การเข้าพบผู้นำเข้าข้าวที่ฟิลิปปินส์ เป็นการไปหารือ ประจำปีเกี่ยวกับสถาน การณ์ข้าวไทย ปัญหาอุปสรรคของข้าวไทยในตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ฟิลิปปินส์จะให้ทางองค์การอาหารแห่งชาติ. (The National Food Authority : NFA) กลับมาเป็นผู้นำเข้าข้าว ขาว 25% เพื่อจำหน่ายให้ผู้ที่มีรายได้น้อยในประเทศ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการถกเถียงประเด็นนี้อยู่

ขณะนี้ ความต้องการข้าวขาว 25% สูงมาก เพราะรัฐบาลฟิลิปปินส์ ต้องการนำมาขายกับคนจนในประเทศบริโภค แต่ก็ยังมีข้อถกเกียงกันเกี่ยวกับการวิธีการที่จะให้เอกชนนำเข้าข้าว ตัวอย่าง ถ้าซื้อขายข้าว 1,000 ตัน จะต้องมีข้าวขาว 25% มาเป็นสต็อกด้วย ซึ่งไทยเองมีข้าวขาว 25% และมีราคาถูกว่าข้าวขาว 5% ถึง 20ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ทั้งนี้เวียดนามถือว่ามีส่วนแบ่งตลาดฟิลิปปินส์เป็นอันดับหนึ่ง แต่ขณะนี้การส่งออกข้าวของเวียดนามมาฟิลิปปินส์ชะลอ เนื่องจากรอความชัดเจนของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่จะประกาศนโยบายลดภาษีนำเข้าจาก 35% เหลือ 15% ซึ่งผู้นำเข้าทุกรายต่างรอดูประกาศของฟิลิปปินส์ เพราะถ้าส่งออกมาตอนนี้อาจจะขาดทุน

อ่านข่าว:

ส่องเกมยื้อประมูลข้าว 10 ปี "วีเอท" ส่อวืด "มะลิเก่า" 15,000 ตัน

จับตา ! ประมูลข้าว 10 ปี "ล้ม-ไม่ล้ม" โจทย์ใหญ่ ทำไมต้อง "ธนสรร ไรซ์"

ข้าวไทยแพง ถูกเวียดนามแย่งตลาด "ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง