สว.เก่าขู่เจอ “รัฐประหาร” สกัด สว.ใหม่ค้านตั้ง กมธ.สอบ

การเมือง
9 ก.ค. 67
14:31
470
Logo Thai PBS
สว.เก่าขู่เจอ “รัฐประหาร” สกัด สว.ใหม่ค้านตั้ง กมธ.สอบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

สว.“ตัวตึง” อย่างนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่เคยสร้างทั้งสีสันและ “เรียกแขก” ให้กับวุฒิสภาและการเมืองไทยหลายครั้งหลายหน สุดท้ายในการประชุมวุฒิฯ เพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาตรวจสอบการเลือก สว. ชุดล่าสุด อดไม่ได้ที่จะอภิปรายทิ้งทวน

ไม่ใช่เพียงการอภิปรายสอดแทรกวิวาทะแบบเหน็บแนม ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังพ่วงด้วยความไม่พอใจท่าทีของ ว่าที่ สว.ชุดใหม่ 200 คน ที่วิพากษ์ไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการชุดดังกล่าว ถึงขั้นสั่งให้หุบปาก นั่งพับเพียบให้เรียบร้อย หาไม่แล้ว อาจจะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ใหม่เกิดขึ้น

ถือเป็นการข่มขู่ชัดเจนในทีว่า ให้ระวังอาจเกิดรัฐประหาร เนื่องเพราะ สนช. หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มักเกิดจากหลังการทำรัฐประหารโดยกองทัพ หากเข้ามาแล้ว ไม่ทำหน้าที่สว.อย่างตรงไปตรงมา

เป็นการ “เล่นแรง” ยกเอาเรื่องรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลมาพูดในทำนองข่มขู่ ไม่ต่างจากเมื่อครั้งตั้งรัฐบาล 8 พรรคการเมืองนำโดยพรรคก้าวไกล หนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ครั้งนั้น สว.ยืนกรานจะไม่โหวตเลือกนายพิธา จึงมีคำถามว่าแฟนคลับหรือ “ด้อมส้ม” จะรวมตัวชุมนุมประท้วงหรือไม่

นายกิตติศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการกรรมกรข่าวของนายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา พิธีกรชื่อดังว่า การปฏิวัติอาจเกิดได้ทุกเมื่อ และอ้างจะมีคนต่างจังหวัด ผนึกพลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯเป็นกองหนุนให้

การ “จัดหนัก” แรงของนายกิตติศักดิ์ สร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายหลายคน จนมีเปิดหน้าชนและคัดค้านการทำรัฐประหารซ้ำซาก โดยเฉพาะ รศ.นันทนา นันทวโรภาส หนึ่งในว่าที่ 200 สว.ชุดใหม่ ที่ถามกลับเรื่องการยึดอำนาจขึ้นข่มขู่ เป็นวิธีคิดของคนเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และถามถึงมารยาท สว.ชุดเก่าด้วยว่า ควรทำหรือไม่เรื่องตั้งกรรมาธิการวิสามัญมาตรวจสอบการเลือกสว.ชุดใหม่

เพราะหากไม่ถูกต้องก็ควรไปยื่นร้อง กกต. ไม่ใช่ตั้ง กมธ.ขึ้นมาตรวจสอบเอง ด้วยเหตุผลไม่ใช่หน้าที่

ขณะที่การตั้งกรรมาธิการดังกล่าว อาจมองได้ 2 ด้าน ด้านหนึ่งเพราะเห็นว่า ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ ต้องทำงานให้คุ้มค่าเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ที่สภาฯต้องจ่ายให้ แม้จะคำถามเรื่องกรอบเวลาสำหรับการตั้งกรรมาธิการด้วยว่า จะทำอะไรได้ทันหรือไม่ หรือเหมาะสมอย่างไร

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ไม่แคล้วอาจถูกมองว่า เป็นสว. “หิวแสง” หรือต้องหวังยื้อเวลาการเป็น สว. หรืออาจหวังได้ไปต่อ จึงพยายามแสดงบทบาทให้เห็น แม้จะมีข้อกฎหมายห้ามไว้ระหว่าง 2 ปีหลังพ้นจากการเป็น สว. จะรับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่ 2 ปีก็ไม่นานเกินรอ

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากการทำหน้าที่ของ กกต.แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเลือก สว.ที่มีเสียงวิพากษ์อย่างหนักมาตั้งแต่ต้น แต่กกต.ก็ยังอ้างทำหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่กล้าใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อแก้ปัญหา ปล่อยไว้จน “ดินพอกหางหมู” รวมทั้งในการเลือกตั้ง สส.หรือเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา วิธีรับรองไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลังที่กกต.ใช้ ไม่ประสบผลในความรู้สึกของนักสังเกตการณ์และประชาชนทั่วไป

อีกทั้งช่วงหลัง ๆ กกต.ทำงานอย่างโดดเดี่ยวแบบชงเอง ทำเอง รับรองเอง ขาดพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือตรวจสอบตามหลักเช็กแอนด์บาลานซ์ โดยเฉพาะองค์กรกลาง และพีเน็ตในอดีต ที่เคยทำงานร่วมกับกกต.ชุดแรก ๆ จนได้รับการยอมรับเรื่องการทุจริต ผิดกฎหมาย

เมื่อขาดองค์กรกลาง และพีเน็ต ทำให้ความขลังของ กกต.นับวันยิ่งถอยหลัง ขณะที่ความเป็นเอกภาพถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กกต.ขาดผลงานที่โดดเด่น ได้รับการยอมรับจากประชาชน

ทำให้เรื่องการรับรองสว.ชุดใหม่ต้องยื้อเยื้อ และกกต.โดน “ทัวร์ลง” จัดหนักต่อไป มิหนำซ้ำ ยังโดนข้ออ้าง “รัฐประหาร” มาใช้ข่มขู่อีกต่างหาก

บทสรุปที่ยังไม่ได้ข้อสรุปจึงเป็นเช่นนี้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : มูลนิธิสืบฯ ออกจดหมายปิดผนึก "ความในใจของคนทำงาน" ปมเพิกถอนป่าทับลาน

ช็อก! ประกาศขาย "เกาะราบ" อ้างมีเอกสารสิทธิ

ความจริงอีกด้านของปัญหา “อุทยานฯ ทับลาน” #Saveทับลาน หรือ #Saveชาวบ้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง