ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ได้รับคะแนนนิยมแซงหน้าพรรครัฐบาลอย่างพรรคคอนเซอร์เวทีฟมาโดยตลอด ดังนั้นการประกาศจัดการเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนดของผู้นำอังกฤษ จึงถือเป็นการเสี่ยงเดิมพันสำคัญ ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องทำแบบนี้เพราะไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาอาจจะย่ำแย่
สอดคล้องกับทิศทางการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์หลายสำนักที่ตีพิมพ์หน้าหนึ่ง เชียร์พรรคที่ตัวเองสนับสนุน โดยเฉพาะ The Sun หนังสือพิมพ์ tabloid ชื่อดังของอังกฤษที่มักจะเชียร์เฉพาะผู้ชนะการเลือกตั้ง รอบนี้ออกตัวแรงหนุนหลัง "เคียร์ สตาร์เมอร์" หัวหน้าพรรคเลเบอร์ อย่างเต็มที่
ผลสำรวจความคิดเห็นแทบทุกสำนักระบุตรงกันว่า พรรคเลเบอร์ จะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถือเป็นการทวงบัลลังก์อังกฤษคืนจากการปกครองอันยาวนานถึง 14 ปี ของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ แต่จะชนะกันมากน้อยแค่ไหนยังต้องรอผลอย่างเป็นทางการ
บริษัท เซอร์เวชั่น เผยแพร่รายงานการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ชี้ว่า พรรคเลเบอร์ อาจจะกวาดเก้าอี้ในสภาไปได้มากถึง 484 ที่นั่ง จากทั้งหมด 650 ที่นั่ง หรือเกือบ 3 ใน 4 ของทั้งหมด ขณะที่คอนเซอร์เวทีฟจะได้เก้าอี้ไปเพียง 64 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคในปี 1834 และพรรคอันดับสาม Liberal Democrat น่าจะคว้ามาได้ 61 ที่นั่ง
อ่านข่าว : เปิดคูหาเลือกตั้ง "อังกฤษ" คะแนนนิยม "คอนเซอร์เวทีฟ" ส่อพ่าย
เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์ และภรรยา เดินทางไปลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งในลอนดอน
เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์ และภรรยา เดินทางไปลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้งในลอนดอน
หลายคนอาจมีคำถามว่า แล้วเหตุใดรัฐบาลถึงพ่ายแพ้แบบหมดรูปเช่นนี้ ปัจจัยหลักๆ คือ คนอังกฤษเบื่อการเมืองของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ซึ่งในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา อังกฤษเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปแล้วถึง 5 คน ซึ่งหนึ่งในต้นตอของปัญหาคือ ความขัดแย้งและความไร้เอกภาพภายในพรรครัฐบาล
ขณะที่ปัญหาสภาพเศรษฐกิจในประเทศทำให้ชาวอังกฤษมีแนวคิดเอียงซ้ายเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตค่าครองชีพที่พุ่งสูง มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลและผลกระทบจากการตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ BREXIT
นอกจากนี้ ในสายตาของชาวอังกฤษส่วนหนึ่งมองว่า อิทธิพลของประเทศบนเวทีโลกกำลังถดถอยลงไปในหลายมิติ และต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้งในครั้งนี้ให้ได้
ครั้งสุดท้ายที่พรรคเลเบอร์ชนะการเลือกตั้ง คือเมื่อปี 2005 โดยคว้าที่นั่งมาได้ 355 ที่นั่ง จากทั้งหมด 646 ที่นั่ง แต่ชัยชนะของเลเบอร์ที่ครองสถิติได้ที่นั่งในสภามากที่สุดคือ ในสมัยของ "โทนี แบลร์" เมื่อปี 1997 ที่ออกมาชูแนวคิด New Labour โดยแสดงความตั้งใจที่จะปฏิรูปพรรคเลเบอร์ให้มีแนวนโยบายที่เป็นกลางมากขึ้น จากจุดเดิมที่เอียงไปทางซ้าย
จุดนี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แบลร์ได้รับชัยชนะเหนือพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ถือเป็นการปิดฉากการครองอำนาจ 18 ปีของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ขณะนั้นแบลร์กวาดมาได้ถึง 418 ที่นั่ง จาก 659 ที่นั่ง ดังนั้นต้องลุ้นว่ารอบนี้ "สตาร์เมอร์" จะนำพาเลเบอร์ทำลายสถิติเดิมได้หรือไม่
ไม่ว่าเลเบอร์จะคว้ามาได้กี่ที่นั่ง แต่รัฐบาลชุดใหม่ย่อมเผชิญกับความท้าทายมากมายที่รออยู่ ตั้งแต่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ การรับมือกับปัญหาระบบสาธารณสุขของประเทศ ไปจนถึงการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับยุโรปในยุคหลัง BREXIT ที่รัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟ 4 สมัย ตั้งแต่ Theresa May, Boris Johnson, Liz Truss มาจนถึง Rishi Sunak ก็ยังแก้ไม่ตก ซึ่งยังไม่นับรวมความผันผวนที่เกิดขึ้นบนเวทีการเมืองโลก
อ่านข่าว
DAL เสิร์ฟอาหารปนเปื้อนให้ผู้โดยสาร หวิดท้องเสียแวะจอด JFK