กรณีมีข่าวเรื่องการซื้อขายใบปริญญาปลอมจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในราคา 200,000 บาท ซึ่งมีการอ้างชื่อประธานมูลนิธิทางสังคมชื่อดังแห่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2567 ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร แถลงข่าวกรณีมีการแอบอ้างหลอกขายวุฒิการศึกษาเพื่อเรียกรับเงินในราคา 200,000 บาท ทางมหาวิทยาลัยไม่รู้จักประธานมูลนิธิคนดังกล่าวมาก่อน ไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร หลังจากนี้จะให้นิติกรของมหาวิทยาลัย ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสียหาย
อ่านข่าว นายกฯ สั่งสอบซื้อขายบัตรเข้า-ออกทำเนียบ ราคาหลักหมื่น
มหาวิทยาลัยปัดซื้อขายวุฒิ-ตั้งกก.สอบ
ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ออกแถลงการณ์ชี้แจงผ่านทางเพจเฟซ บุ๊ก Phitsanulok University มหาวิทยาลัยพิษณุโลก โดยระบุว่าข่าวแอบอ้างการซื้อขายปริญญาบัตรของนักศึกษา หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตตามที่ปรากฎในข่าวและสื่อโซเชียล ระบุผู้เสียหายรายหนึ่งถูกประธานมูลนิธิดัง แอบอ้างซื้อขายปริญญาบัตร ของนักศึกษาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต
มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ขอชี้แจงว่าหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต เป็นหลักสูตร 4 ปี นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียน 2 ภาคการศึกษาต่อ 1 ปีการศึกษา ซึ่งนักศึกษาที่เป็นผู้เสียหายได้สมัครและลงทะเบียนเรียนกับมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ในภาคการศึกษา 2 ปีการศึกษา 2566 (ตามประกาศมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เรื่องรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ลงวันที่ 11 ม.ค.2567
การเรียนของนักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนตามโครงสร้างหลักสูตร 123 หน่วยกิต 41 รายวิชา แล้วจะสำเร็จการศึกษาได้ในภาคการศึกษา 2 ปีการศึกษา 2569 ซึ่งเป็นไปตามมาตราฐานหลักสูตรของกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยพิษณุโลก
ขณะนี้มหาวิทยาลัยพิษณุโลกได้ชี้แจงผ่านผู้สื่อข่าวไปเบื้องต้นแล้ว และได้ดำเนินการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
สำหรับคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง ดร.ประภาพรรณ รักเลี้ยง อธิการบดีมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ได้เซ็นคำสั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มีราชื่อดังนี้ประกอบด้วย ดร.มานพ เกตุเมฆ เป็นประธาน ประธานสอบ ส่วนกรรมการ คือ นายชาตรี จำลองกุล ว่าที่ร.ต.ดร.สุนิมิต ชุ่มพงษ์ นายณโม รักเลี้ยง นายศิริวิชย์ สร้อยทองพงศ์ และน.ส.วิจิตรา คุณคำ เลขานุการ
อ่านข่าว เช้านี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ขัดข้อง แจ้งปรับการเดินรถชั่วคราว
"สมคิด" สั่งแจ้งเอาผิดแอบอ้างชื่อ
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า กรณีถูกแอบอ้างว่าสามารถออกบัตรเป็นคณะทำงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าได้ให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งความ เพื่อให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องการซื้อขายตำแหน่งใดๆ คนที่เอาชื่อไปอ้างตนก็รู้จักเขาเคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน ทุกคนก็รู้หมดว่าเป็นใคร
ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง โทรมาขอโทษแล้ว ยืนยันไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวไม่รู้ว่านำเบอร์มาจากใคร แม้จะขอโทษ แต่ทีมกฎหมายบอกว่า ไม่แจ้งความเหมือนกับรู้เห็น และอาจไปทำกับคนอื่นได้ ส่วนใครจะผิดหรือถูกตนไม่รู้
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง แจงกรณีเพจหนึ่งแอบอ้างว่าออกบัตรเป็นคณะทำงานค่าใช้จ่าย 60,000 บาท ว่
นายสมคิด นอกจากนี้ได้ทำหนังสือยกเลิกบัตรเข้าออกเข้าออกทำเนียบ ของคณะทำงานทั้งหมด 14 คน ไม่อยากไปเช็กว่าใครดีใครเลว เอาเป็นว่าใครอยากมาพบอยากมาประสานงาน จะไม่ให้บัตรอีกแล้วไปแลกเอา เพราะไปใช้บัตรในทางที่ไม่ถูก ไม่ตรงกับเจตนาในการทำงาน
ส่วนคนที่นำบัตรไปอวดจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบอ้างในเรื่องนี้หรือไม่ตนยังไม่ทราบ แต่เห็นหน้าชัดเจนใน LINE กลุ่ม และเจ้าตัวก็มาชี้แจงว่าถูกแอบอ้างเหมือนกัน ก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นคดี
ส่วนเรื่องการซื้อขายใบปริญญา ไม่ทราบรายละเอียด โดยคุณต้นอ้อ แจ้งว่า เดี๋ยวจะเป็นคนแฉเอง จะระบุว่าอยากทำดีกับสังคมไม่มีใครห้าม แต่อย่าให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะมันกระทบอย่างคนอื่น ตนก็ไม่รู้อีโหน่อีแหน่ไปก็มากระทบด้วย
อ่านข่าวอื่นๆ
รวบ 2 สาวเครือข่ายหลอกลงทุนหุ้น ชายสูงวัยสูญ 35 ล้านบาท