วันนี้ (3 ก.ค.2567) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยนำเอกสารทั้งหมด 4 แฟ้มมายื่นให้กับ ป.ป.ช.
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตนเองมายื่นหนังสือ 2 เรื่องคือ คดีฟอกเงินที่ สน.เตาปูน ซึ่งเรื่องอยู่ในชั้น ป.ป.ช. โดยมายื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งรายละเอียดต่างๆ ในคดี โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินและคำชี้แจงข้อกล่าวหาฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นการยื่นตามขั้นตอนของกระบวนการ ป.ป.ช. และขณะนี้สถานะของตนเองเมื่ออยู่ในชั้น ป.ป.ช.จะเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นผู้ต้องหา เป็นผู้ถูกตรวจสอบ เพื่อรอการไต่สวนและชี้มูล ดังนั้นตราบใดที่ ป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูลก็ถือว่ายังบริสุทธิ์
ส่วนกรณีคดีมินนี่ ที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาลูกน้องตนเอง 8 คน อัยการส่งสำนวนกลับ เพราะอัยการมองว่าผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและอำนาจหน้าที่ตรวจสอบเป็นของ ป.ป.ช. จึงคาดว่าเร็ว ๆ นี้ พนักงานสอบสวนจะนำสำนวนดังกล่าวมาส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังมายื่นกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ตัวได้ยื่นฟ้องไปแล้วและถอนฟ้องในวันที่ 23 เม.ย. เนื่องจากในขณะนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ได้มายื่นกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงไม่อยากให้เกิดความซ้ำซ้อน แต่ล่าสุดได้พบกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และทราบว่าเจ้าตัวได้ถอนฟ้องไปแล้ว แต่ไม่ทราบเหตุผล ตนเองในฐานะพยานผู้เสียหายโดยตรงจึงมายื่นฟ้องอีกครั้ง เพื่อผู้ติดตามและจะได้นำผลการพิจารณาของ ป.ป.ช.มาชี้แจงกับประชาชน
พร้อมระบุว่า กรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยมิชอบนั้น มองว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เนื่องจากต้องคำนึงถึง 2ส่วนคือ ความอาวุโสและมีความรู้ความสามารถในการป้องกันและปราบปราม แต่ขณะนั้นนายกฯ ให้เหตุผลการแต่งตั้งว่า เพื่อสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้และเป็นที่ไว้วางใจ ดังนั้นหากแต่งตั้งแบบนี้ก็ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจ
หากปฏิบัติตามเกณฑ์ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เป็นผู้อาวุโสลำดับที่ 1 แล้วตนเองเป็นอาวุโสลำดับที่ 2 แต่มีการเสนอชื่ออันดับสุดท้ายมาโดยไม่ไล่เรียงอันดับ จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจ แม้นายกฯ จะมีอำนาจเสนอชื่อบุคคลใดเป็นแคนดิเดต แต่จะต้องชี้แจงเหตุผล พร้อมยืนยันว่าตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจไม่มีการให้คะแนน เพราะหากจะให้คะแนน ประชาชนจะต้องเป็นคนให้คะแนน ดังนั้นมองว่าถ้าไม่เอาหลักเกณฑ์ลำดับอาวุโสก็ต้องแก้กฎหมายใหม่ ส่วนคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในขณะนั้นที่เห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็ต้องรับผิดชอบด้วย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมี 2 คนไม่ได้ยกมือเห็นชอบ

ส่วนจะกลับลำถอนฟ้องอีกหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ความผิดนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ใครจะยื่นฟ้องก็ได้ แต่คนอื่นไม่ใช่ผู้เสียหาย ตนเองเป็นผู้เสียหายชัดเจน ดังนั้นอาญาแผ่นดินถอนฟ้องไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการท้ารบ แต่ทำไปตามกฎหมาย ซึ่งการฟ้องครั้งนี้ไม่ได้จัดหนัก แต่การจะทำอะไรต้องคิดอย่างรอบคอบ อีกทั้งการกล่าวหาก็ไม่ได้โกรธกับนายกฯ เป็นการส่วนตัว แต่เรื่องนี้เป็นการกระทำผิดในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนตนเองจะได้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้นไม่เป็นไร แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไล่เช็กบิลใคร
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า การยื่นฟ้องนายกฯ ครั้งนี้ ไม่ได้ถือว่านับหนึ่งใหม่ในกระบวนการของ ป.ป.ช. เพราะเท่าที่ทราบมีพยานบางคนมาให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ไปแล้ว ทั้ง ก.ตร.บางคน และส่วนของกฤษฎีกา ส่วนจะฟ้องใครเพิ่มเติมอีกนั้น ทั้งนายกฯ ที่จะต้องฟ้องเพิ่มกรณีการเซ็นให้ตนกลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเรื่องเซ็นรับรองผลการประชุม ก.ตร., คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) รวมถึงกูรู จะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบก่อน เพราะมีเอกสารหลายอย่าง แต่ยืนยันว่ามีการฟ้องอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า คดียิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ตเกิดขึ้นเมื่อปี 2563 และขณะนี้มีการเปลี่ยน ผบ.ตร.มาแล้ว 4 คน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่สามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีอยู่ระหว่างการสืบสวน ตนเองรู้ดีอยู่แล้วว่าใครทำ แต่พูดไม่ได้ แต่เชื่อว่าขณะนี้เวรกรรมกำลังตามทันคนที่ก่อเหตุ
อ่านข่าว
บุกรวบ "บังมัด คลองตัน" เอี่ยวเว็บพนันฯ รายใหญ่
กทม.สั่งระงับโครงการก่อสร้าง รง.เตาเผาขยะ 7 วัน หลังเกิดเหตุเครนล้ม
มั่นใจ "ลุงชาญ" ทำหน้าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี-ให้รอฟังคำสั่งศาล