วันนี้ (1 ก.ค.2567) นายณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ผ่านรายการ "มุมการเมือง" ทางไทยพีบีเอส กรณีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (นายก อบจ.ปทุมธานี)
หลัง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี อย่างไม่เป็นทางการ ออกมา นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัคร หมายเลข 1 ได้คะแนนทั้งสิ้น 203,010 คะแนน ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัคร หมายเลข 3 ได้คะแนน 201,041 คะแนน โดยระบุว่า
การเลือกตั้งครั้งนี้ปัจจัยในการคว้าชนะมีหลายปัจจัยทั้ง ตัวบุคคล นโยบาย พรรคการเมือง สถานการณ์เฉพาะหน้าในเชิงพื้นที่ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคเพื่อไทยเอาจริงกับสนามเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งนี้
นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 1
นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 1
ขณะที่ การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นที่ จ.ปทุมธานี นั้นเกิดขึ้นก่อนการครบวาระการดำรงตำแหน่งที่จะหมดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีนายก อบจ.ใน 3 จังหวัด ที่ลาออกก่อนครบวาระคือ จ.นครสวรรค์ อ่างทอง และ ปทุมธานี
แต่จุดแตกต่าง คือ นายก อบจ.นครสวรรค์ มีผู้สมัครลงชิงตำแหน่ง 2 คน ขณะที่ ผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.อ่างทอง มีเพียง 1 คน ขณะที่ สนามเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี มีผู้สมัคร ถึง 4 คน ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง
กรณีนี้ จุดสำคัญคือ การลาออกจากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้งก่อน ซึ่งหากในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งทราบผลการเลือกตั้ง สนาม จ.ปทุมธานี ก็อาจจะคิดและประเมินสถานการณ์มากยิ่งขึ้น เพราะหากไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของฐานเสียงส่วนบุคคล ก็อาจจะลาาออกหรือจัดเลือกตั้งพร้อมสมาชิกซึ่งจะช่วยหาเสียงควบคู่กันได้
กรณีการเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี อาจเป็นสัญญาณไปยัง นายกฯ อบจ.ในพื้นที่อื่น ๆ ที่คิดจะลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งเฉพาะตัวบุคคลอาจจะไม่เพียงพอและรอเลือกพร้อมสมาชิกสภาฯ
นายณัฐกร ยังมองว่า ปัจจัยที่อาจทำให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นั้นอาจมาจาก 2 ปัจจัย ดังนี้
1.การที่ไม่จัดการเลือกตั้งนายก อบจ.พร้อมกันทั่วประเทศ อาจทำให้กระแสการเลือกตั้งไม่แรงไม่อาจกระตุ้นให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งได้มากนัก ซึ่งจ.ปทุมธานี มีผู้ใช้สิทธิราว 9 แสนคน แต่ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ครั้ง มีประชาชนมาใช้สิทธิราว 4 แสนคน ซึ่งเดิมมีผู้คนใช้สิทธิราว 50กว่า % แต่ครั้งนี้คนใช้สิทธิลดลงไปราว 10 % ซึ่งอาจเป็นคะแนนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ได้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 3
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 3
2.การแข่งขันใน จ.ปทุมธานี ค่อนข้างสูง และมีการแบ่งคะแนนกันระหว่างผู้สมัคร โดยผู้สมัครหมายเลข 4 นายนพพดล ลัดดาแย้ม ก็เป็นลูกทีมเก่าของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซึ่งนายนพดลได้คะแนนราว 1.2 หมื่นคะแนน ก็อาจมีส่วนที่ไปแบ่งคะแนนในส่วนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไป
ขณะที่ กรณีของพรรคก้าวไกล สส.ปทุมธานี ก็รณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเท่านั้น โดยพรรคก้าวไกลไม่ได้สนับสนุนให้เลือกผู้สมัครรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งอาจเป็นการรณรงค์เพื่อให้ไปรักษาสิทธิการเลือกตั้งเท่านั้น
อ่านข่าว : “ลุงชาญ” ชนะเฉือน “บิ้กแจ๊ส” 1,969 คะแนน ชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี สำเร็จ
“บิ๊กแจ๊ส” ยอมรับผลเลือกตั้ง-ไม่ร้องคัดค้าน ยินดีกับ “ลุงชาญ”