เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 ร้านขายยาแห่งหนึ่งในพื้นที่เทศบาล ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เภสัชกรหญิงร้านขายยา เข้าช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งด้วยวิธี Heimlich maneuver หลังจากแม่เด็กนำลูกวัย 1 ขวบมาขอความช่วยเหลือ เพราะน้องมีอาการตาค้างเบิกโพลน ไม่กระพริบ ตัวอ่อนแรง ไม่ได้สติ
เภสัชกรหญิง ภัคมนต์ ลักษณะ เภสัชกรร้านยาเภสัชกระติ๊บ เล่าว่ามีลูกค้าประจำขี่รถจักรยานยนต์พาลูกวัย 1 ขวบ มาจอดหน้าร้าน ได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดัง ตะโกนว่า "พี่ติ๊บช่วยน้องด้วย น้องชัก" พอตั้งสติได้ตนเองจึง จับน้องนอนลงในคอกเด็ก แจ้งหาผ้ามาเช็ดตัวให้ด่วน ให้พ่อเด็กรีบโทร 1669 ทันที
และเมื่อดูจากอาการเด็ก น้องไม่ได้ตัวร้อน จึงปั๊มหัวใจ แต่ประเมินอาการแล้วน่าจะไม่ใช่อาการที่แม่น้องบอกมา จึงสอบถามแม่น้องว่า ก่อนหน้านี้ให้น้องกินอะไรมาบ้าง เพราะในใจสงสัยเรื่องอาหารติดคอ พอแม่บอกว่าองุ่นชิ้นเล็ก จึงไม่รอช้า ลงมือจับน้องกระทุ้งทันที จนน้องตอบสนองตาเริ่มกระพริบช้า เริ่มได้ยินเสียงร้องเบา ๆ จนกระทั่งเด็กได้สติตั้งคอได้ และรถโรงพยาบาลมาถึงหน้าร้านพอดี จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล
เภสัชกรหญิง ภัคมนต์ ลักษณะ
เภสัชกรกระติ๊บ บอกว่าหลังน้องปลอดภัย น้ำตาไหลในใจโล่งเลย "น้องรอดแล้วนะลูก" ที่ผ่านมาเปิดร้านยามา 12 ปี เจอผู้ป่วยวิกฤตมาเยอะ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนบีบหัวใจเท่าครั้งนี้ เพราะเราก็มนุษย์แม่เช่นกัน ล่าสุดน้องปลอดภัยและยังคงเฝ้าดูอาการน้องต่อที่ รพ.สตูล เหตุการณ์นี้ต้องบอกว่าสติเท่านั้นที่ทำให้รอดชีวิตมาได้
วิธีปฐมพยาบาลเมื่ออาหารติดคอ สำหรับทุกวัย
ข้อมูลจาก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ สภากาชาดอเมริกัน ระบุถึงการให้ความช่วยเหลือเมื่อเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ รวมไปจนถึง คนท้อง คนรูปร่างใหญ่ และเมื่ออยู่คนเดียว แล้วอาหารหรือของเล่นติดคอ เกิดอาการสำลัก
สังเกตอาการสำลัก ดังนี้
- มือข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างจับที่คอ (เป็นท่าที่ร่างกายตอบสนองต่ออาการนี้เองทันที)
- ไม่สามารถพูดคุยได้
- หายใจลำบากหรือมีเสียงดัง
- มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เมื่อพยายามหายใจ
- อาการไอรุนแรง เพราะร่างกายพยายามสำรอกเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา
- ผิวหนัง ริมฝีปาก และเล็บเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงินหรือสีเทา เพราะเริ่มขาดอากาศหายใจแล้ว
- การสูญเสียสติ และนำไปสู่การเสียชีวิตได้
กรณีเด็กทารก (อายุน้อยกว่า 1 ปี)
กรณีไม่หมดสติ ตรวจดูอาการทางเดินหายใจอุดกั้น เช่น ร้องไม่มีเสียง ไอไม่ออก วิธีช่วยเหลือ ให้จับเด็กคว่ำ (หันหน้าลงพื้น) ใช้ฝ่ามือรองเพื่อซัพพอร์ตคอเด็กด้วย จากนั้นให้ทำมือเป็นกระเปาะ แล้วตบหลังรัว ๆ 5 ครั้งแล้วจับเด็กนอนหงาย กดหน้าอก 5 ครั้ง ด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลางบริเวณกลางอก ทำสลับ (เด็กคว้ำ+เด็กหงาย) ซ้ำ ๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะออกมา
กรณีหมดสติ ให้ทำปฏิบัติการกู้ชีพ โทร 1669 ขอความช่วยเหลือ ถ้าเห็นสิ่งแปลกปลอมค่อยดึงออกมา ทำการปฏิบัติการกู้ชีพจนความช่วยเหลือมาถึง
กรณีเด็กโต ผู้ใหญ่ คนชรา
กรณีไม่หมดสติ ถามว่าพูดได้ไหม ถ้าพูดได้ ร่างกายจะพยายามสำรอกเอาของแปลกปลอมออกมาเอง (เป็นปฏิกิริยาของร่างกาย) ผู้ให้ความช่วยเหลือให้คอยสังเกตอาการอยู่ข้าง ๆ
แต่ถ้าผู้ป่วยส่ายหัว เป็นสัญญาณว่าเขาพูดออกมาไม่ได้ ให้ลงมือช่วยทันที ด้วยวิธี Heimlich maneuver ผู้ช่วยอ้อมไปอยู่ด้านหลัง ให้แขน 2 ข้างโอบไปที่เหนือสะดือใต้ลิ้นปี (Abdominal Thrust) กุมมือให้แน่นทั้ง 2 ข้างแล้วกระทุ้งเอาหาตัวเอง ทำซ้ำจนสิ่งแปลกปลอมออกมา
กรณีหมดสติ ให้ทำปฏิบัติการกู้ชีพ โทร 1669 ขอความช่วยเหลือ ถ้าเห็นสิ่งแปลกปลอมค่อยดึงออกมา ทำการปฏิบัติการกู้ชีพจนความช่วยเหลือมาถึง
คนท้องหรือคนรูปร่างใหญ่
หากผู้ป่วยกำลังตั้งครรภ์หรือมีรูปร่างใหญ่จนไม่สามารถโอบแขนรอบท้องได้ ให้ผู้ช่วยใช้วิธีกดหน้าอกแทน พาผู้ป่วยยืนอิงกำแพง แล้วผู้ช่วยการยืนอยู่ด้านหน้าผู้ป่วย วางมือไว้ที่ฐานของกระดูกหน้าอก กดหน้าอกให้แรง ทำซ้ำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะออกมา
หากอยู่คนเดียวและสำลักอาหาร
โทร 1669 จากนั้นหาเก้าอี้หรือขอบโต๊ะ ดันตัวเองกระแทกเข้าไป จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะออกมา หรือ ความช่วยเหลือมาถึง
อ่านข่าวอื่น :
ครบรอบ 86 ปี เรื่องเล่าของ "มัจฉาณุ-วิรุณ-สินสมุทร-พลายชุมพล"