วันนี้ (24 มิ.ย.2567) ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ประธานคณะทำงานตรวจสอบกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร และการกระทำที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีลัทธิเชื่อมจิต
นายบุญเชิด กล่าวว่า ตนทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคณะกรรมการเก็บรายละเอียดอย่างรอบคอบ รวมทั้งดิจิทัลฟุตพริ้นท์ทั้งหมด จนกลายเป็นมติมหาเถรสมาคม มติที่ 424/2567 กรณีลัทธิเชื่อมจิต ซึ่งละเอียดมาก กระทั่งตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ระบุว่า ไม่ต้องหาข้อมูลพยานหลักฐานอื่น ซึ่งตนเองได้ให้ถ้อยคำและแจ้งข้อกล่าวหาตามที่สำนักพุทธฯ ได้มอบอำนาจ ยืนยันว่าไม่ได้ทำงานล่าช้า
เรื่องนี้ทำให้พระพุทธศาสนาบอบซ้ำพอสมควรแล้ว มติฉบับนี้จะเป็นการป้องปราบ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก
ขณะที่นายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ลัทธิเชื่อมจิต เป็นนิมิตหมายที่ดีในการแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ ในสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ นอกจากจะดูแลพระสงฆ์แล้ว ต้องดูแลพระธรรมคำสอน และพระไตรปิฎก
ปัจจุบันมีลัทธิต่าง ๆ จำนวนมาก อาจทำให้สำนักพุทธฯ ดูแลไม่ทั่วถึง มูลนิธิทนายกองทัพธรรม อยู่ระหว่างร่างโครงการเพื่อให้มีหน่วยงานตรวจสอบการสอนธรรมะ ที่ผิดจากพระธรรมวินัย หรือพระไตรปิฎก ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานในกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินคดีในกรณีได้รับการตักเตือนจากสำนักพุทธฯ แล้วไม่ปฏิบัติตาม
กรณีลัทธิเชื่อมจิต ผมได้รับคลิปจากเด็กชายที่เป็นข่าว ว่า การไหว้เด็กคนนี้ก็เหมือนกับไหว้พระพุทธเจ้า เป็นการเหยียบย้ำหัวใจมาก
ส่วนความคืบหน้าทางคดี นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตำรวจ บก.ปอท. สอบไปแล้วร้อยละ 90 โดยสำนักพุทธฯ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว เหลืออีก 1 หน่วยงาน คือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมร้องทุกข์ฯ เช่นเดียวกัน
สำหรับข้อกล่าวหาทั้งหมด เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร และเตรียมแจ้งความเพิ่มในประมวลรัษฎากร โดยในส่วนของสำนักพุทธฯ แจ้งในเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทั้งหมดในสำนวนมีประมาณ 30-40 กรรม
มูลนิธิฯ จะกล่าวหาครอบคลุมทั้งหมด ส่วนฉ้อโกงกับฟอกเงินมีผู้เสียหายด้วย
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า พม.ต้องเข้าไปกล่าวโทษในความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก คาดว่าไม่เกินเดือน ก.ค.นี้ โดยมีหน่วยงานรัฐเสียหาย 2 หน่วย คือ สำนักพุทธฯ และ พม.
ลัทธิเชื่อมจิตจบที่มติมหาเถรสมาคมแล้ว แต่คุณไม่ยอมรับ สุดท้ายเหลือแต่กระบวนการขึ้นศาล เพื่อวินิจฉัยว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นเท็จหรือไม่ วันที่มีหมายจับก็แพแตก พรุ่งนี้จะแจ้งความอีก 60 คน
ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ กล่าวว่า เตรียมดำเนินคดีกับนายธรรมราช เพิ่มเติม โดยระบุว่ามีความกระทำผิดซ้ำ และความผิดเฉพาะตัวทนายความ เช่น พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน ซึ่งเด็กไม่ควรถูกแสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ
อ่านข่าว : สำนักพุทธฯ ยืนยัน "เชื่อมจิต" ไม่มีใน "พระไตรปิฎก"