ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"บิ๊กเต่า" คาดเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหลบหนีไปประเทศที่ 3 แล้ว

อาชญากรรม
15 มิ.ย. 67
14:06
814
Logo Thai PBS
"บิ๊กเต่า" คาดเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหลบหนีไปประเทศที่ 3 แล้ว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พล.ต.ต.จรูญเกียรติ" เผยข้อมูลล่าสุดพบเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่หายไปไม่ได้อยู่ในกัมพูชา คาดหลบหนีไปประเทศที่ 3 ขณะที่น้องชายของ "โจ้ ปัตตานี" ยืนยันไม่ได้ติดต่อพี่ชายมาหลายปี

วันนี้ (15 มิ.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่สถานีตำรวจน้ำ สัตหีบ พบว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งจากการสอบถามชุดทำงานระบุว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบกับรูปคดี

มีข้อมูลว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือและขอความร่วมมือในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด

ทีมข่าวสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ผลการหารือพบว่าเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 3 ลำไม่ได้อยู่ในประเทศกัมพูชา โดยคาดว่าได้หลบหนีไปประเทศที่ 3 แล้ว ส่วนจะมีการถ่ายน้ำมันและทำลายเรือหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูล

อ่านข่าว : แจงปม "กระบะดำ" ขับเข้าท่าเรือเป็นรถตำรวจน้ำ-เร่งหาเรือของกลา

ส่วนเรือของกลาง 2 ลำ พร้อมลูกเรือ 5 คนที่ยังจอดเทียบท่าอยู่ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายเรือของกลางทั้ง 2 ลำไปจอดที่อื่นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ซึ่งจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่าเรือตำรวจน้ำหมายเลข 632 ได้เปลี่ยนฝั่งจอดเทียบท่ามาประกบกับเรือของกลางทั้ง 2 ลำแทน

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า การหลบหนีของเรือทั้ง 3 ลำมีการติดสินบนค่าปล่อยเรือ ลำละ 6 ล้านบาท ก่อนท้ายที่สุดจะตกลงกันที่การจ่ายเงิน 1 ล้านบาทและปล่อยให้นำเรือออกไป

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งคดีนี้ไม่น่าใช่เรื่องของความพยายามติดสินบน แต่เป็นเรื่องที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ แต่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ แต่หากพบมีการติดสินบนจริง ๆ ก็จะจัดการเรื่องนี้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องชายนายสหชัย หรือ โจ้ ปัตตานี ที่เป็นเจ้าของเรือน้ำมัน 3 ลำ พร้อมน้ำมัน 330,000 ลิตรที่หายไป โดยระบุว่า ไม่ได้ติดต่อพี่ชายมาหลายปีแล้ว เคยพยายามตามหาแต่ก็หาไม่พบ ส่วนเรื่องธุรกิจน้ำมันของพี่ชายไม่ทราบรายละเอียด

เมื่อถามถึงกระแสเรือของกลางอีก 2 ลำที่ถูกอายัดและจอดเทียบท่าสะพานท่าเรือตำรวจน้ำ สัตหีบ น้องชายนายสหชัย ยืนยันว่า ไม่ใช่ของตัวเอง ไม่รู้ของใครและยังสงสัยว่าใครเป็นคนให้ข้อมูล จึงต้องการขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย

อ่านข่าว

ใต้เงาอิทธิพล "เสี่ยโจ้" คนหนีคดียังล่องหน "เรือขนน้ำมันหาย"

ร้อง กมธ.ผู้บริโภคฯ แก้ปัญหาทะเลาะแย่งลูกค้าในสนามบินกระบี่

16 มิ.ย.พร้อมเลือก สว.ระดับจังหวัด กกต.เตือนผู้สมัครมาสาย 1 วินาทีโดนตัดสิทธิ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง