จัดเต็มเข้มข้นรับ “แป้งนาโหนด” นักเลงบ้านนอกสู่ “วายร้ายข้ามชาติ”

อาชญากรรม
4 มิ.ย. 67
14:48
1,084
Logo Thai PBS
จัดเต็มเข้มข้นรับ “แป้งนาโหนด” นักเลงบ้านนอกสู่ “วายร้ายข้ามชาติ”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไม่มีใครปฏิเสธว่า นายชวลิต ทองด้วง หรือ”แป้ง นาโหนด”ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะการหลบหนีจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ระหว่างรักษาตัว ปี 2566 ก็ชัดเจนอยู่แล้ว

แต่ที่ชวนฉงนน่าสงสัย เหตุใด “แป้ง นาโหนด” จึงดูจะถูกยกระดับเป็น “วายร้ายข้ามชาติ” ไปแล้ว

ทั้งก่อนและหลังถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุม ภายใต้การประสานของตำรวจไทย คาที่พักที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

และเมื่อรัฐมนตรียุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เข้ารายงานด่วนเรื่องนี้ ต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 พ.ค.

ฉับพลัน แอปพลิเคชั่น X ขอนายกฯ ก็โพสต์ข้อความ ได้รับรายงานจากรัฐมนตรียุติธรรม ว่า“แป้ง นาโหนด” นักโทษหนีคดีถูกจับกุมตัวแล้ว โดย สตช. กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงต่างประเทศ ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดฯ

เรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี ดูจะให้น้ำหนักและสนใจเป็นพิเศษ ประกาศจะบินไปอินโดฯ ทันที ในวันรุ่งขึ้น เพื่อรับตัว “แป้ง นาโหนด” กลับไทย

พร้อมเปิดลิสต์รายชื่อระดับ “บิ๊ก” จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะบินร่วมทริป อาทิ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้ช่วย ผบ.ตร.รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

รวมทั้งที่ปรึกษานายกฯ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ยังไม่รวมคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง แม้จะเลื่อนบินเป็น 1 มิ.ย. แต่คณะเดินทางก็เป็นชุดเดิม

ทั้งในตอนแรก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ยังระบุพร้อมจัดเครื่องแอร์บัส A 320 ซึ่งมีความปลอดภัยสูงสุด สำหรับภารกิจนี้

นำไปสู่เสียงวิพากษ์การจัดใหญ่จัดเต็ม ทั้งเรื่องคณะร่วมเดินทางที่มากเกินความจำเป็นหรือไม่ รวมทั้งเครื่องบิน หากเป็นแอร์บัส A 320 จริง จะเวอร์วังเกินเหตุหรือไม่ เพราะทุกอย่างล้วนแต่มีค่าใช้จ่าย

แม้ พ.ต.อ.ทวี จะแจกแจงเรื่องงบประมาณที่ใช้ว่า เพียง 6 แสนบาท สำหรับเป็นค่าน้ำมัน และค่าจอดเครื่องบิน

แต่ในความจริงน่าจะมากกว่านั้น เพราะต้องมีค่าที่พัก ค่าอาหาร งบเอ็นเตอร์เทน ค่าใช้จ่ายในการประสานและเดินทางภายในประเทศอินโดฯ

จึงเกิดคำถามว่าคุ้มหรือไม่ แค่ไหน กับการลงทุน “ขี่ช้างจับตั๊กแตน” เพราะ “แป้ง นาโหนด” เป็นเพียงผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ที่ถูกขังในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช แล้วหลบหนีระหว่างไปรักษาตัวที่รพ. เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.2566

อันเป็นผลจากความประมาทเลินเล่อ หรือมีนอกมีในของเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ทั้งที่มีผู้คุมเฝ้าถึง 2 คน และยังรอนานถึง 3 ชั่วโมงหลังการหลบหนี ถึงค่อยเข้าแจ้งความกับตำรวจ

สื่ออาวุโสบางคนเปรียบ “แป้ง” เป็นเพียงนักเลงบ้านนอก โดยมีอิทธิพลเฉพาะพื้นที่ของตน และใกล้เคียง คดีใหญ่ที่สุดที่โดน คือ ถูกกล่าวหาร่วมกับพวกปล้นผู้ต้องหา จากตำรวจภูธรภาค 8 ขณะเข้าจับกุมคดียาเสพติด และถูกศาลจังหวัดพัทลุง สั่งจำคุก 20 ปี 6 เดือน

ซึ่งเป็นเรื่องที่ “แป้ง” เรียกร้องหาความเป็นธรรมให้ตนเอง เพราะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับการประกันตัว และนำไปสู่การได้อัดคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียล กล่าวหาอัยการคนหนึ่งเป็นผู้วางแผนอยู่เบื้องหลัง เป็นเหตุให้เขาต้องหลบหนี

หลังหนีไปอินโดฯ เสมือนเขาถูกยกระดับเป็นรายร้ายข้ามชาติตัวฉกาจไปโดยปริยาย ทั้งที่ตอนหลบหนีจากปิดล้อมของตำรวจ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด พื้นที่รอยต่อ จ.ตรัง และพัทลุง นานนับ 2 สัปดาห์

ก่อนหนีไปทาง จ.สตูล และขึ้นเรือเดินทางไปอินโดฯ เขาอยู่ในสภาพหัวซุกหัวซุน ไปอยู่อินโดฯ ก็หลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะพูดภาษาไม่ได้ แต่บางหน่วยงานที่ร่วมทริปเดินทาง ตั้งข้อสังเกตเดินทางไปอินโดฯ เพื่อจะหาเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ

การปฏิบัติการนำตัว “แป้ง” กลับมารับโทษที่ไทย ถือเป็นเรื่องควรยกย่องในระดับเจ้าหน้าที่ ที่มีการประชุมวางแผน อย่างที่เห็นในภาพที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์

แต่สำหรับในระดับนโยบาย ไม่น่าจะเป็นเรื่องผลงาน แต่เป็นการตามล้างตามจัดการให้กับกรมราชทัณฑ์ ที่ปล่อยให้ “แป้ง” หลบหนีจากการถูกควบคุมตัว และควรต้องมีคนระดับผู้หลักผู้ใหญ่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่เมื่อตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ ทุกฝ่ายขอไทยกลับเรียงหน้าออกมาแสดงตนเป็นผลงาน

ยังไม่นับการเตรียมตำรวจถึง 300 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เพื่อคุมเข้มตั้งแต่ลงสนามบิน นำขึ้นรถตู้ แล้วนำส่งไปยัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อสอบสวนและขอฝากขังต่อศาล ในวันที่ 4 มิ.ย.

เชื่อกันว่า จะเป็นข่าวใหญ่ กลบข่าวสารการเมืองหลายข่าว ที่กำลังเป็นประเด็น และถาโถมเข้าใส่รัฐบาลขณะนี้ รวมทั้งเรื่องเลือก สว.ที่กำลังเป็นปมร้อยสำหรับ กกต.

ท่ามกลางคำถามค้างคาใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยว่า ไฉนการติดตามผู้ต้องหารายใหญ่ คดีสำคัญๆ ที่ดังไปทั่วโลกของจริง เช่น คดีบอส-วรยุทธ์ อยู่วิทยา ทายาทคนดังตระกูลเจ้าสัวใหญ่ หรือแม้แต่คดีจำนำข้าว ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องคำพิพากษาจำคุก 5 ปี

แต่กลับไม่เห็นความกระตือรือล้น เอาจริงเอาจัง ตามติดไม่ปล่อย เหมือนกรณี “แป้ง นาโหนด” เอาเสียเลย

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : “สภาการสื่อมวลชนฯ” เปิดผลสอบ 2 นักข่าว รับเงินจาก "รอง ผบ.ตร."

ปิดพื้นที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เตรียมรับตัว "แป้ง นาโหนด"

“ทวี” โต้ไม่ได้โอ๋แห่รับ "แป้ง" อินโดฯ อาสามาส่งแต่แรก-เตรียมขังเรือนจำมั่นคงสูง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง