วันนี้ (31 พ.ค.2567) เมื่อเวลา 17.00 น. น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 2 เรื่องพายุ “มาลิกซี” โดยระบุว่าเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (31 พ.ค.) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มาลิกซี” แล้ว
และเมื่อเวลา 16.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ประมาณ 120 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 20.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนืออย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในคืนวันนี้ (31 พ.ค.) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับในระยะต่อไป ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับพายุมาลิกซี (MALIKSI) แปลว่าเร็ว ตั้งชื่อโดยประเทศฟิลิปินส์
สำหรับพายุมาลิกซี (MALIKSI) แปลว่าเร็ว ตั้งชื่อโดยประเทศฟิลิปินส์ (ภาพกรมอุตุนิยมวิทยา)
ค่ำนี้ ชาวกทม.รีบหนีฝนตกหนัก
ด้านนายสมควร ต้นจาน ผอ.ส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า “มาลิกซี” เป็นพายุลูกที่ 2 ของปีนี้ แต่เส้นทางพายุไม่ได้เคลื่อนเข้าไทย แต่จะมีผลทางอ้อมทำให้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น
โดยเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) ทั่วประเทศเจอฝนตกหนัก และแรงมากๆ ในช่วงบ่ายถึงค่ำ เช่น กทม.ปริมาณฝนที่วัดได้สูงสุด 115 มม.ที่เขตคลองเตย กทม. ส่วนต่างจังหวัดที่อ.ขลุง จ.จันทบุรี วัดปริมาณฝนได้ถึง 162 มม.
ช่วงค่ำนี้ คนกทม.ต้องเตรียมรับมือฝนตกหนักและแรงน่าจะใกล้เคียงกับเมื่อวานนี้ โดยพายุมาลิกซี แม้ไม่พัดเข้าไทย แต่จะดึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ให้แรงอีก 1-2 วัน และเริ่มน้อยลง และเริ่มหนักในภาคเหนือและอีสาน
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไปช่วงวันที่ 31 พ.ค.–6 มิ.ย.นี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ตลอดช่วง ในขณะที่พายุดีเปรสชันปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกของเกาะไหหนาน
ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ยในช่วงวันที่ 2 -6 มิ.ย.นี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
โดยกทม.และปริมณฑล ในช่วงวันที่ 1–2 มิ.ย.นี้ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 3–6 มิ.ย.นี้ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อ่านข่าว
สภาพอากาศวันนี้ พกร่ม! 80% พื้นที่ กทม.เตรียมรับมือฝนตกหนัก
ฝนตกหนัก กทม.น้ำท่วมขังหลายจุด รถเล็กสัญจรลำบาก