ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ยอมแล้วครับนาย” แป้งสารภาพกับ “ทวี” ก่อนคุมตัวกลับไทย

อาชญากรรม
31 พ.ค. 67
17:07
1,173
Logo Thai PBS
“ยอมแล้วครับนาย” แป้งสารภาพกับ “ทวี” ก่อนคุมตัวกลับไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ราชทัณฑ์" ระบุ "แป้ง นาโหนด" กลับไทย ต้องอยู่เรือนจำความมั่นคงสูง 1 ใน 5 แห่ง ป้องกันหลบหนี และต้องลดสิทธิหลายอย่าง "ทวี" เผยเจ้าตัวสารภาพ “ยอมแล้วครับนาย” แต่ไม่กังวลถูกฆ่าตัดตอนในไทย ชี้ทางการอินโดนีเซีย พร้อมจัดชุดคุมตัวส่งตัว

วันนี้ (31 พ.ค.2567) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการคุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง อีกครั้งว่า ทางการไทยสามารถรับตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด กลับประเทศไทยได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย.เป็นต้นไป

สำหรับกรณีที่ต้องส่ง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ไปด้วยนั้น เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลอินโดนีเซียทุ่มเท เรื่องเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ รายใหญ่หลายเครือข่าย เพื่อประสานเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน

หากได้ตัวนายเชาวลิตกลับมา การออกหมายแดงจะถือเป็นหมายที่เกิดขึ้นใน จ.พัทลุง พื้นที่ สภ.หนองบอน ซึ่งช่วงที่เจ้าตัวหลบหนีได้มีความผิดฐานขัดขวางต่อสู้กับเจ้าพนักงาน และครอบครองอาวุธปืน ทำให้มีหมายจับนี้เกิดขึ้น และส่วนใหญ่มักเป็นคดีที่เกิดขึ้นใน จ.พัทลุง

ส่วนคดีที่ศาลตัดสินไว้ ไม่ว่าจะเป็นคดีปล้น คดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งอันนี้ศาลมีคำตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคดีใหม่ที่จะเกิดขึ้นก็คือคดีที่มีการหลบหนีออกจากสถานที่คุมขัง (รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช) ระหว่างการนอนพักรักษาตัวนอกเรือนจำ รวมไปถึงคดีระหว่างหนีอีกด้วย อย่างไรก็ต้องไปตรวจสอบทั้งหมด

ส่วนการดูแลความปลอดภัย หลังพาตัวเสี่ยแป้งเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องคุมตัวไปสอบสวนและฝากขัง ซึ่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้นอาจจะเป็นของตำรวจท้องที่ จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช เว้นแต่เป็นเรื่องสำคัญ ตำรวจอาจโอนสำนวนมาส่วนกลาง หรือถ้าเห็นเป็นเรื่องสำคัญ ก็อาจใช้อำนาจพิจารณาในกรณีอาจรับเป็นคดีพิเศษ ตามเงื่อนไขของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

และอีกประการ คือ กรมราชทัณฑ์ คงจะต้องดูว่าจะใช้เรือนจำใดเป็นที่คุมขัง ขอให้เป็นดุลพินิจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีหรือก่อเหตุร้าย โดยก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 2 ส่วน

อ่านข่าว : ย้อนตำนาน "นักโทษประหาร" แหกคุกไทย ปิดฉาก "แป้ง นาโหนด"

โดยส่วนแรกคือการติดตามการหลบหนี ขณะที่ส่วนที่ 2 คือเรื่องที่เสี่ยแป้งร้องขอความเป็นธรรมและความปลอดภัย ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสิ่งที่เสี่ยแป้งพูดผ่านคลิปวีดีโอ ที่เชื่อมโยงไปถึงพยานคนอื่นมายืนยัน โดยเราจะให้ความยุติธรรม เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ

ส่วนเสี่ยแป้งจะเดินทางไปทำธุรกิจอะไร ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า ขอรอให้มีการสอบสวนก่อน เพราะในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัว ได้ติดตามเครือข่ายที่มีหมายจับจากคดียาเสพติด ซึ่งรายละเอียดขณะนี้ยังไม่ทราบ

ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างเสี่ยแป้ง กับเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า การที่เสี่ยแป้งหนีไปอยู่อินโดนีเซียคนเดียวไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่มีคนให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการทำบัตรประชาชน และการให้ที่พักพิง อย่างคอนโดหรู รวมถึงการเดินทางในเกาะบาหลี

ดังนั้นจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียตรวจสอบเสียก่อน โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียยังไม่พบความผิดของเสี่ยแป้งที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งทางการอินโดนีเซียแจ้งกับทางการไทยว่ามีชุดเจ้าหน้าที่นำส่งตัวผู้ต้องหาระหว่างประเทศพร้อมเที่ยวบิน เพื่อคุมตัวเสี่ยแป้งมาส่งที่ประเทศไทยตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป โดยคาดว่าอาจจะใช้เวลา 2-3 วัน

สำหรับประเด็นการเพิ่มโทษ หลังนำตัวเสี่ยแป้งกลับมายังประเทศไทยนั้น พบว่า เดิมทีเจ้าตัวก็มีโทษตามกฎหมาย แต่จากคดีเดิมที่หลบหนีการคุมขัง คดีปล้น ซึ่งมีคำสั่งศาลโทษถึงที่สิ้นสุดแล้ว และมีโทษคดีใหม่ เรื่องการทำร้าย และพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ พกพาอาวุธปืน รวมถึงยังมีคดีใหม่ที่จังหวัดพัทลุงอีก 3 คดี โดยแต่ละคดีก็จะมีโทษที่แตกต่างกัน

สำหรับการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณา โดยเฉพาะในคดีเสี่ยแป้ง เดิมทีมีรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เป็นประธานที่ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของการเลือกสถานที่คุมขังนั้นขอให้เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่อาจจะมีการโอนสำนวนคดีจากพื้นที่เดิมขึ้นมาที่กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้ระบบสอบสวนออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องนำตัวเสียแป้งลงไปในพื้นที่

อ่านข่าว : ส่ง "พล.ต.ท.ประจวบ" รับ "แป้ง นาโหนด" โดน 3 ข้อหาหนัก

“ราชทัณฑ์” เตรียมเรือนจำความมั่นคงสูงขัง “แป้ง”

ด้าน นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เบื้องต้นจะไม่นำตัวแป้ง กลับไปคุมขังที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพราะต้องคำนึงถึงความมั่นคงและปลอดภัย ส่วนจะเข้าไปขังเรือนจำใดก็จะต้องเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ซึ่งปัจจุบันมี 5 แห่งในประเทศ อาจจะต้องพิจารณาเรือนจำใดเรือนจำหนึ่ง

ส่วนจะเป็นเรือนจำในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่นั้น นายสหการณ์ เปิดเผยว่า เรือนจำที่นครศรีธรรมราช ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อยกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยปกติแล้วนักโทษที่หลบหนี นอกจากจะถูกดำเนินคดีทางอาญาแล้ว ยังต้องถูกดำเนินการตามระเบียบวินัยของเรือนจำ คือลดประโยชน์หรือจำกัดอิสรภาพมากกว่านักโทษคนอื่น เช่นจำกัดการเยี่ยมญาติ

สำหรับการต่อสู้คดีของแป้ง หลังจากนี้ราชทัณฑ์ไม่สามารถตัดโอกาสตรงนี้ ของตัวผู้ต้องขังได้หรือแยกคุมขังเดี่ยว เนื่องจากต้องคำนึง ถึงความปลอดภัยของตัวนักโทษ และนักโทษไม่ก่อเหตุรายอื่น

ส่วนกรณีของแป้ง จะซ้ำรอยของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่มีการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกให้หลบหนีออกจากศาล นายสหการณ์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการนำตัว แป้ง ไปอยู่ในเรือนจำที่มีระบบความปลอดภัยสูง โดยปกติแล้วนักโทษที่มีคดีอุกฉกรรจ์เราจะระทัดระวังเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการอยู่เรือนจำจะไม่สามารถหลบหนีได้

หากต้องนำตัวแป้งขึ้นศาล จะต้องมีมาตรการอย่างไร เพื่อป้องกันการแหกคุก นายสหการณ์บอกว่า มี 2 มาตรการ อาจใช้ ระบบ Video Conference และหากจำเป็นต้องนำตัวไปศาลอาจเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เข้มงวด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยหากหลังจากนี้ แป้งเจ็บป่วย ปกติแล้วในเรือนจำมีสถานพยาบาลขั้นปฐมภูมิ และมีแพทย์ทำการตรวจรักษา ภายในเรือนจำได้ ซึ่งตั้งแต่แป้งหลบหนีออกไป ขณะนั้นอ้างเหตุ รักษาฟัน ซึ่งหมอนัดไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช นี่คือเหตุที่นำไปสู่การหลบหนี และก่อนหน้านี้แป้ง ยังอ้างว่า ตกจากที่สูง จนทำให้เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จึงต้องออกไปรักษาตัว ข้างนอกอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่าเป็นจุดที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่หากไม่ถึงขั้นป่วยหนักก็ไม่จำเป็นต้องไปรักษาโรงพยาบาลข้างนอก

อ่านข่าว : ตร.คาด “แป้ง” นั่งเรือไปอินโดฯ ชี้ระยะทางไม่ไกล ช่วงหลบหนีไม่มีมรสุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง