วันนี้ (24 พ.ค.2567) สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดเผยความคืบหน้าการดูแล "นีน่า" หรือขมิ้น ลูกเสือโคร่งของกลาง ตัวเมีย อายุ 3-4 เดือน น้ำหนัก 23.5 กิโลกรัม พบสุขภาพทั่วไปและขับถ่ายปกติ พฤติกรรมซุกซน กินเก่ง เบื้องต้นให้กินนม KMR ชนิดผง ทุก ๆ 3 ชั่วโมง ปริมาณนมโดยรวมกินวันละ 2,160 มิลลิลิตร รวมทั้งให้เนื้อวัวหยาบ กินวันละ 2 มื้อ ครั้งละ 600 กรัม
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ขณะที่การลงน้ำหนัก 2 ขาหลังดีขึ้น พบว่ามีเพียงบางช่วงที่อาจจะเดินผิดปกติเล็กน้อย ซึ่งต้องตรวจดูอาการอย่างต่อเนื่อง และเสริมสารอาหารจำพวกแคลเซียม โดยให้กินอาหารที่ถูกหลักตามโภชนศาสตร์ที่ลูกเสือโคร่งควรได้รับตามหลักวิชาการ เพื่อป้องกันภาวะโรคกระดูกบาง-กระดูกเสื่อมในลูกสัตว์ได้
ทั้งนี้ สัตวแพทย์วางแผนการฟื้นฟูสุขภาพเพิ่มเติมในเรื่องของการเสริมสร้างมวลกระดูก โดยใช้เครื่องแมคเนโตปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า วันละ 1 ครั้ง ทุก 20-30 นาที รวมทั้งวางแผนทำวัคซีนไข้หัดหวัดแมว ซึ่งจะเริ่มโปรแกรมวัคซีนใหม่ทั้งหมดให้กับลูกเสือโคร่งนีน่า ภายในเดือน พ.ค.2567 หลังจากกักโรคครบ 7 วัน ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 25 พ.ค.2567
ภาพ : กรมอุทยานฯ
นอกจากนี้ สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝังไมโครชิฟลูกเสือโคร่งของกลาง เพื่อทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า หมายเลขไมโครชิฟ 900026000221529 รวมทั้งวางแผนเจาะเก็บเลือดเพื่อส่งตรวจพันธุกรรม แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากลูกเสือโคร่งตื่นกลัวเข็ม จึงเลื่อนการเจาะเลือดไปก่อน เพื่อไม่ให้ลูกสัตว์เครียดจนเกินไป
ภาพ : กรมอุทยานฯ
สพ.ญ.ณฐนน กล่าวว่า สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ยังได้ฝังไมโครชิฟ ลูกสิงโตของกลาง ชื่อขนุน อายุ 5 เดือน น้ำหนัก 33 กิโลกรัม หมายเลขไมโครชิฟ 900026000214657 สุขภาพโดยทั่วไปพบว่าปกติ กินเนื้อวัวหั่นชิ้น วันละ 1 กิโลกรัม และโครงไก่สับละเอียดวันละ 1 กิโลกรัม นม KMR ชนิดผง วันละ 2 มื้อ มื้อละ 250 มิลลิลิตร รวมเป็นวันละ 500 มิลลิลิตร
อ่านข่าว
แกะรอยฟาร์มดัง สวม "สิงโต" เป็น "ลูกเสือโคร่ง"
ล้อมจับ "ลูกเสือโคร่ง" โผล่กลางชุมชนย่านบางปะกง
เจ้าของอ้าง "ไลเกอร์" เพ้นท์ลาย ไม่ใช่ "ลูกเสือโคร่ง"