วันนี้ (23 พ.ค.2567) นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่งกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา หลังจากที่เป็น 1 ใน 40 สว.ที่ร่วมลงชื่อยื่นคำร้องผ่าน พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่
อ่านข่าว : 23 พ.ค.นี้ ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจำหน่ายคำร้อง 40 สว.
โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีแรงกดดันอะไร มั่นคงในเรื่องของหลักการสิ่งที่ควรจะทำซึ่งการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่ทำเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นการกวาดบ้านให้สะอาดช่วยกันทำให้รัฐบาลเป็นของประชาชน ให้รัฐบาลชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีความชอบธรรม ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องกระทำ และไม่ควรถูกตำหนิหรือถูกด้วยค่า
และการลาออกจากรรมาธิการพัฒนาการเมืองวุฒิสภาเป็นเรื่องปกติ ถ้าการทำงาน วิธีคิด ทัศนคติ ไม่ตรงกัน ก็แยกกันทำงาน ซึ่งก็มี สว.หลายท่านที่ลาออกจากกรรมธิการหนึ่งเพื่อไปทำงานอีกส่วนหนึ่ง พร้อมย้ำว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ของการย้ายกรรมาธิการ
ทั้งนี้ยอมรับว่าเหตุผลหนึ่งที่ต้องลาออก คือน้อยใจที่ถูกตำหนิจากเพื่อน สว. แต่ในทางกลับกันไม่ยอมให้ใครตำหนิตัวเอง ซึ่งเป็นการตำหนิในทำนองว่าการทำเรื่องไร้สาระ อยู่ในช่วงรักษาการ ซึ่งเป็นการตีความที่ผิด
"เป็นเรื่องเล็ก ที่อยู่ในระดับความสำคัญที่ไม่ควรทำ เรื่องนี้ทำไปทำไม ถ้ามุ่งหวังทางการเมือง ทำไปแล้ว ผลสุดท้ายถ้าเกิดต้องล้มรัฐบาล ก็อยู่ในพรรคเพื่อไทยอยู่ดี พูดในทำนองที่ทำให้การเมืองวุ่นวาย หรือไปมีผลประโยชน์หรืออย่างไร เลยทำให้รู้สึกไม่ดี"
เป็นการด้อยค่าให้ความน่าเชื่อถือ 40 สว.น้อยลง พร้อมย้อนถามกลับไปว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรทำใช่ไหม ในขณะที่ตัวเองทำสิ่งเหล่านี้ต่อสาธารณะได้ ส่งผลอะไร
สิ่งที่ สว.ทั้ง 40 คนได้ทำ เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผล มีประโยชน์กับประเทศ
วิธีคิดของ สว.บางท่านก็ไม่ได้เหมือนกันคนส่วนใหญ่ และถ้าไม่ออกมาชี้แจง หรือร่วมกันทำงานต่อไป ก็เท่ากับยอมรับในสิ่งที่เค้าทำ
นายดิเรกฤทธิ์ ยังกล่าวว่าการทำงานของ สว.มีอิสระ มีเกียรติภูมิ มีประสบการณ์การทำงาน มีความรู้ที่หลากหลาย เพื่อทำหน้าที่ในการถ่วงดุล สส.ตรวจสอบรัฐบาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และที่ผ่านมา ก็แต่ละคนทำงานด้วยความเคารพกันและกัน แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญกับประเทศ และอาจจะเป็นพฤติกรรมของ สว.บางคน
การทำหน้าที่ของ สว. 5 ปีที่ผ่านมาทำได้ดีในทุกๆ เรื่อง และไม่ได้เลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายก็จำเป็นต้องยื่นตรวจสอบ อย่าให้ประชาชนต้องเสื่อมศรัทธาในระบบนี้
สำหรับที่หลายฝ่ายมองว่า 40 สว.ทำให้การเมืองที่กำลังเดินหน้าต้องหยุดชะงักไปนั้น ดิเรกฤทธิ์ ระบุว่าเป็นเรื่องพ้นวิสัยการทำหน้าที่ ไม่ใช่เป้าที่มุ่ง ซึ่ง 40 สว.ดูเนื้อหา ดูปัญหาเฉพาะหน้า เรื่องที่ผิดกฎหมาย ทำให้รัฐบาลไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน จำเป็นต้องมีคนนำไปสู่ข้อยุติให้สังคมได้เห็นถึงความโปร่งใส
40 สว.ใช้เวลาคุยกันไม่นาน เพราะเป็นเรื่องของประเทศ ทำตามเนื้อผ้า
อ่านข่าว : 10 ปีรัฐประหาร "ยิ่งลักษณ์" หวังเห็น รธน.ฉบับใหม่ พาประเทศสู่ ปชต.
สมัคร สว.วันที่ 3 นักวิชาการแห่สมัคร "สันธนะ" ยื่นเอกสารเขตปทุมวัน