วันนี้ (11 พ.ค.2567) ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดพังงา ว่า มีชาวบ้านพบซากพะยูนเพศเมีย จำนวน 2 ตัว บริเวณชายหาดหมู่ 4 บ้านเกาะหมากน้อย ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา โดยขนาดที่วัดได้ (โดยชาวประมง) ตัวที่ 1 ความยาว 3.5 เมตร ตัวที่ 2 ความยาว 2.5 เมตร ยังไม่ทราบสาเหตุของการตาย
ศรชล.จังหวัดพังงา จึงได้ประสาน สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เพื่อให้จัดชุดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ประสานศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธารภูเก็ต มารับซากพะยูนไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดต่อไป
ภาพจาก : ศรชล.ภาค 3
ภาพจาก : ศรชล.ภาค 3
อ่านข่าว : เร่งชันสูตร "ซากพะยูน" เกาะพีพี ถูกใบพัดเรือฟัน 2 แผลใหญ่
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเรือหางยาว พบซากพะยูนลอยอยู่ในทะเล บริเวณร่องน้ำปากทางเข้าคลองแห้ง ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา หมู่ที่ 5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพะยูนตัวเมีย เต็มวัย น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม มีร่องรอยถูกใบจักรเรือฟันบริเวณหัว เป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ 2 แผล เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่จัดทำบันทึกการตรวจสอบ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
อ.ธรณ์ เผย 5 วัน ตาย 4 ตัว ชี้คือ "เหตุฉุกเฉินสูงสุด"
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ 5 วัน พะยูนตาย 4 ตัว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กรมอุทยานฯ, คณะวิกฤตหญ้าทะเล/พะยูน เร่งออกมาตรการดูแล
คณะทำงานพบว่า พะยูนส่วนใหญ่ผอม ชั้นไขมันลด เริ่มมีโรคเรื้อรัง ที่เกยตื้นมีน้ำหนักอาหารน้อยกว่า 1% (ปรกติ 3%) ทีมงานจึงได้สำรวจทั้งหญ้าทะเล พะยูน เส้นทางสัญจรทางน้ำ ก่อนนำทุกอย่างมาทำเป็น "แผนที่ช่วยพะยูน" โดยในแผนที่แบ่งเป็น 3 ระดับความเสี่ยง เช่น ห้ามสัญจร ลดความเร็ว ฯลฯ โดยจะมีการใช้ทั้งพื้นที่ในเขตอุทยานฯ และนอกเขตอุทยานฯ เป็นการทำงานที่เร่งด่วนทันเหตุการณ์สุด ๆ
ภาพจากเฟซบุ๊ก : Thon Thamrongnawasawat
ผศ.ดร.ธรณ์ ระบุด้วยว่า หวังว่าเมื่อมีการประกาศใช้ออกมา ทุกคนจะให้ความร่วมมือ และมีการทำทุ่นบอกเขต ตลอดจนการลาดตระเวนดูแลจริงจัง สถานการณ์ 5 วัน 4 ตัว คือ เหตุฉุกเฉินสูงสุด Red Alert
เท่าที่จำได้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่พะยูนตายถี่ๆ แบบนี้ หวังว่ากระทรวงทรัพยากรฯ จะทุ่มเทสรรพกำลังและงบประมาณเพื่อช่วยให้ได้ คนไทยรักพะยูน ไม่อยากให้พวกเธอที่อพยพทิ้งบ้านมา ต้องเดินทางมาสู่อันตราย และมีความตายรออยู่
อ่านข่าว : "อ่าวมาหยา" ติดอันดับ 5 ของโลก 100 ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก