ความคืบหน้าไฟไหม้ถังเก็บสารแก๊สโซลีน ของบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เกิดไฟไหม้เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 1 คนบาดเจ็บ 5 คน
วันนี้ (11 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวและญาติของ นายนพพร เรือนมา พนักงานประจำของบริษัท ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น โดยแรงระเบิดทำให้เสียชีวิต จัดเตรียมสถานที่วัดปูแกง ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย หลังจากเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) เจ้าหน้าที่นำศพออกจากโรงพยาบาลระยอง ตั้งแต่เวลา 15.30 น.
อ่านข่าว โซเชียลอาลัย "พนักงานหนุ่ม" เสียชีวิตไฟไหม้ "มาบตาพุดแทงค์"
แต่ปรากฏว่าระหว่างทางคนขับรถรถตู้บรรทุกศพได้รับโทรศัพท์จากตำรวจให้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งขณะนั้นรถเดินทางถึงจ.อ่างทองแล้ว
แจงปมชันสูตรซ้ำรอบ 2
ด้านพล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง กล่าวว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องการความชัดเจน เกี่ยวกับผลการตรวจตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้แพทย์ได้ยืนยันถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน ว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยเฉพาะผลการตรวจพิสูจน์ปอด เลือด และสารพิษตกค้างในร่างกาย ซึ่งถ้าหากมีการนำร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นมาอีกในภายหลัง
ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งคืนร่างให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.เชียงราย แล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากเมื่อคืนนี้ได้เข้ารับการผ่าชันสูตรเป็นคิวแรก
ส่วนผลการชันสูตร และรายละเอียด ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นดุลยพินิจของทางนิติเวช และพนักงานสอบสวน
ด้านพ.ต.อ.หญิงศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันว่า ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ขอให้ทำการผ่าชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน
พบคลื่นไส้-อาเจียน-ตาแดง
ส่วนบริเวณศาลาเอนกประสงค์ ข้างวัดตากวน เจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้นำบุคลากรทางการแพทย์ ให้บริการตรวจสุขภาพประชาชน ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนตากวนอ่าวประดู่ หนองแฟบ ใกล้จุดเกิดเหตุ
กระทั่งหลังเกิดเหตุการเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย เช่นหายใจติดขัด และแสบตา ตาแดง น้ำตาไหลตลอดเวลา จึงพากันเข้ามารับการตรวจรักษา โดยในจำนวนนี้พบแม่ที่อุ้มลูกน้อยในวัย 6 เดือนมาพบกับหมอ เนื่องจากอาเจียนอย่างหนัก ส่วนลูกยังไม่พบอาการผิดปกติ สำหรับยอดลงทะเบียน เข้ารับการตรวจคัดกรอง 224 (ข้อมูล 10 พ.ค.) คนไข้มีอาการรับยา 55 คน ส่งตัวเข้า รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ 5 คน
อ่านข่าว ภาพความเสียหายถัง "แก๊สโซลีน" ไฟไหม้ยังมีสาร 2,000 ลบ.ม.
เยียวยาผู้เสียชีวิต 1.8 ล้านบาท -4 คนยังเจ็บ
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม จ.ระยอง ตรวจสอบเหตุการณ์ในครั้งนี้มีลูกจ้างเสียชีวิต 1 คน ผู้บาดเจ็บอีก 4 รายเป็นเพศชายทั้งหมด ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU รพ. กรุงเทพระยอง 3 คน และรพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ 1 คน
โดยคนแรกแรกอายุ 30 ปี เป็นลูกจ้างของบริษัทมาบตาพุดแทงแทงค์ มีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากสูดดมควัน คนที่ 2 อายุ 22 ปี ลูกจ้างของบริษัทเวอร์เท็กซ์ เซอร์วิส มีบาดแผลไฟไหม้ 12 % ของร่างกาย คนที่ 3 อายุ 26 ปี ลูกจ้างของบริษัทเวอร์เท็กซ์ เซอร์วิสฯ ส่วนคนที่ที่ 4 อายุ 23 ปี ลูกจ้างของบริษัท กงพัฒนาฯ มีบาดแผลจากไฟไหม้ 50% ของร่างกาย
ด้านประกันสังคมจ่ายเยียวยา ให้กับนายนพพร ผู้เสียชีวิตเป็น เงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 1.68 ล้านบาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 110,039 บาท รวมเป็นเงิน 1.8 ล้านบาท
อ่านข่าว
"อ.อ๊อด" เผยผลตรวจ "ข้าว 10 ปี" พบสารก่อมะเร็ง - 13 พ.ค.ส่งแล็บพิสูจน์