- "เผ่าภูมิ" โชว์ดิจิทัลวอลเล็ตพายุหมุนศก.ผลงานเพื่อไทย
- "สมศักดิ์" ลาออก "นายกอบจ.นครสวรรค์" ก่อนครบวาระ เปิดทางผู้บริหารชุดใหม่
วันนี้ (3 พ.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวเปิดงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" ในหัวข้อ "เติมเพื่อไทยให้เต็ม 10 สนับสนุนรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ" ว่า ในนามของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าเราตัดสินใจถูกต้องมาก ที่ได้จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว เพราะปัญหาที่มีอยู่มากมาย หลังจากที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ได้เห็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหารถึง 2 ครั้ง และใช้เวลาเกือบ 2 ทศวรรษ และปัญหาระบบราชการ ที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน ไม่พร้อมในการปรับตัวในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ รวมไปถึงเรื่องภัยคุกคามที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นกับเยาวชน โดยเฉพาะยาเสพติด หรือการมอมเมาในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ประชาชนของชาติอ่อนแอ และทำให้โอกาสในการทำมาหากินมีไม่มาก
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ในขณะที่ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจใต้ดิน อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่มากที่สุดในประวัติการณ์ โดยพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีประสบการณ์ในการบริหารมาอย่างยาวนาน และเป็นพรรคที่ขึ้นชื่อว่าบริหารงานได้สำเร็จ และผลักดันนโยบายได้สำเร็จตามที่เคยพูดไว้มากที่สุดของประเทศไทย
อ่านข่าว : นายกฯ ไม่ห่วงปม "พิชิต" เตรียมจัดรายการ TV โชว์ผลงานรัฐบาล
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า แน่นอนว่าหากเราไม่เลือกที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสม และเป็นแกนนำ ก็คงไม่มีโอกาสที่จะได้เริ่มแก้ปัญหาที่สะสมมานาน ซึ่งขณะนี้กฎหมายพยายามทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นอิสระจากรัฐบาล โดยเรื่องนี้จะเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เพราะว่านโยบายทางด้านการคลังถูกใช้งานมาด้านเดียวตลอด ทำให้ประเทศมีหนี้ที่สูงมากขึ้นทุกปี จากการตั้งงบประมาณที่ขาดดุล หากนโยบายการเงินที่บริหารโดย ธปท. ไม่ยอมเข้าใจ และไม่ยอมให้ความร่วมมือ ประเทศประเทศไทยจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้เลย
โดย 10 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเศรษฐา เป็นแกนนำในการบริหาร ซึ่งได้ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น และปัญหาต่างๆ ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้น เรามั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่ และทำให้ได้เต็ม 10 อย่างแน่นอน
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ในมิติทางเศรษฐกิจ เริ่มต้นด้วยการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะเงินถูกดูดออกจากระบบไปมาก จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน และค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 400 บาท จะทำให้ทุกคนต้องปรับตัว เพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน พรรคเพื่อไทยจะผลักดันเศรษฐกิจในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เติมเงินและเพิ่มค่าแรง แต่รวมไปถึงเม็ดเงินใหม่จากต่างประเทศจะเข้ามาจากการลงทุนและการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน โดยการนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน
ในมิติของการบริหารราชการแผ่นดิน จะเปลี่ยนจากรัฐบาลอุ้ยอ้าย อืดอาด ไม่โปร่งใส เป็นรัฐบาลดิจิทัล บริหารด้วยความรวดเร็ว และมี super app ในการบริการ ทุกมิติของภาครัฐ และเราจะปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ใหม่อีกครั้งหนึ่งเร็วๆ นี้ พร้อมจะแก้กฎหมายทางเศรษฐกิจอีกหลายฉบับ ทั้งการยกเลิกกฎหมายล้าสมัย เขียนกฎหมายใหม่ให้ไทยกลับมาเป็น Hub ทั้งการบินและการเงิน ของอาเซียนให้ได้
ในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ จะผูกมิตรกับทุกมหาอำนาจ และยินดีให้ไทยเป็นที่เจรจาความขัดแย้งจากทุกฝ่าย
ทั้งนี้ด้วยความที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่อยู่มานานเจอเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องดี และเรื่องร้าย และก็ผ่านมาด้วยกันได้ ซึ่งการที่ที่พรรคคู่แข่ง ที่ได้สร้างวาทะกรรมขึ้นมา ทำให้เราดูเป็นคนล้มเหลว ทำงานไม่เป็น หรือทำให้รู้สึกว่าเราทำผิดสัญญาต่อพี่น้องประชาชน ทำนโยบายไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ และใช้เวลา ผลงาน และใช้หัวใจที่ทุ่มเทของเรา พิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็น
โดยในสมัยไทยรักไทย เกิดวาทกรรม “30 บาทตายทุกโรค” แต่ทุกอย่างผ่านไป ด้วยการทำงานนโยบายสำเร็จ ผลงานเท่านั้นจะพิสูจน์ ไม่ใช่วาทกรรม หรือการใส่ความต่อว่าจากใคร เพราะ 30 บาทรักษาทุกโรคใช้ได้จริง และกำลังเดินหน้าพัฒนาครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ยืนยันว่าเราจะไม่ยอมอยู่ในเกมการเมืองเหล่านั้น แต่จะใช้อำนาจ และหน้าที่ความรับผิดชอบที่เรามี เป็นเครื่องพิสูจน์
น.ส.แพทองธาร ยังได้ประกาศวิสัยทัศน์ พรรคเพื่อไทยในอนาคต จะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่มีศักยภาพ มีนโยบายที่ดี สร้างอนาคตให้ประเทศไทย พร้อมเปิดตัว ทีม PTP Academy อย่างไม่เป็นทางการ (Soft Launch) หน่วยงานพัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ เปิดพื้นที่เชื่อมโยงการทำงานของพรรคกับหน่วยงานข้างนอก
ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะครองสติ ไม่หวั่นไหว ไม่เล่นเกมโต้ตอบไปมาเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เรามีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่ในมือซึ่งกำลังลงมือทำ ในขณะที่นโยบายกำลังเดินไปข้างหน้า พรรคเพื่อไทยก็กำลังพัฒนาไม่หยุดยั้งเพื่ออนาคตของประเทศไทย รัฐบาลเพิ่งปรับ ครม. ซึ่งมีเสียงจากนักวิชาการหลายท่านที่น่าเชื่อถือได้ให้คำยืนยันว่า ถูกฝาถูกตัวมากที่สุด ทุกอย่างกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่มีทางเลยที่จะแย่กว่าเดิม เรารู้ว่าการทำงานให้บ้านเมืองนั้น เป็นงานที่ Thank Less and End Less ต้องทุ่มเทและไม่มีวันสิ้นสุด แต่เราเต็มใจที่จะทำ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเจริญของประเทศ
อ่านข่าว :
จับกระแสการเมือง 2 พ.ค.67 : "ชลน่าน" จากใจคนช้ำ "เศรษฐา" นำทัพ รมต.ป้ายแดง-คนเดิมเริ่มงานใหม่
"ก้าวไกล" ไม่กังวลถูกยุบพรรค "ชัยธวัช" บอกคุยลูกพรรคหลายรอบแล้ว
"มาริษ" ไม่หนักใจสานงานต่อ "ปานปรีย์"