วันนี้ (3 พ.ค.2567) ในงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า นโยบายนี้จะสร้างพายุ 4 ลูก ที่จะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ที่จะเติมเงินส่งให้กับประชาชนภายในประเทศที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป 50 ล้านคน หรือหมายถึงเม็ดเงิน 500,000 ล้านบาทถูกตัดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ
โดยยกตัวอย่างพายุหมุนลูกแรก เกิดจากประชาชนนำเงินไปซื้อของในร้านค้า ซึ่งจะเกิดธุรกรรมเช่นนี้นับล้านครั้งในรอบแรก ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน และต้องอยู่ในอำเภอตามบัตรประชาชน 878 อำเภอ
ส่วนพายุหมุนลูกที่สองคือการใช้จ่ายจากร้านค้าระหว่างร้านค้า ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการขึ้นเงินของร้านค้าที่จะต้องมีการใช้เงินอีกรอบ ที่จะเกิดการใช้เงินอีกนับล้านครั้ง ที่สามารถใช้ได้ในทั่วประเทศไม่มีข้อจำกัดเรื่องร้านค้า สามารถใช้ข้ามจังหวัดข้ามภูมิภาค
สำหรับพายุหมุนลูกที่สาม ที่ถูกตั้งคำถามว่าเม็ดเงินกำลังจะหมุนไปไหน แล้วถูกฝ่ายค้านตั้งคำถามว่าเงินจะถูกโยนไปที่ร้านของเจ้าสัวหรือไม่ ชี้แจงว่าข้อสังเกตดังกล่าว เป็นการมองเศรษฐกิจที่ไม่ครบระบบ
ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมองอีกมุมหนึ่งว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจเมื่อประชาชนเข้าไปซื้อของในร้านค้าจะเกิดการผลิตและเกิดการจ้างงาน ที่เกิดการซื้อสินค้าอีกหลายรอบ
และพายุหมุนลูกที่สี่ ด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในซุปเปอร์แอปพลิเคชัน เป็นวอลเล็ตกลางขนาดใหญ่ที่สามารถเชื่อมธนาคารต่างๆ ที่ประชาชนสามารถใช้ได้โดยง่าย ซึ่งหากประชาชน 50 ล้านคนอยู่ในการชำระเงินนี้ จะสร้างรายได้ให้ประชาชน
พายุหมุนทั้งสี่ลูกจากกระแทกเข้าไปในระบบเศรษฐกิจไทย ชุบชีวิตเศรษฐกิจไทยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นี่คือดิจิทัลวอเล็ต นโยบายจากพรรคเพื่อไทยสู่นโยบายของรัฐบาลท่านนายกเศรษฐา เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน
อ่านข่าว : "อิ๊งค์" ลั่นทำถูกแล้วตั้งรัฐบาลผสม ยันปรับ ครม.ถูกฝาถูกตัว
"สมศักดิ์" ลาออก "นายกอบจ.นครสวรรค์" ก่อนครบวาระ เปิดทางผู้บริหารชุดใหม่
"สมศักดิ์" ลาออก "นายกอบจ.นครสวรรค์" ก่อนครบวาระ เปิดทางผู้บริหารชุดใหม่