ส่งผลให้การขนส่งสินค้าหยุดชะงักลง และมีเสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสู้รบในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ไม่สามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าได้ตามปกติ จึงทำให้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าสดเช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และปลา เกิดความเสียหาย
มะนอย เจ้าของร้านขายดอกไม้ เล่าถึงผลกระทบโดยตรง ที่ได้รับหลังปิดด่านแม่สอด 1 ว่า โดยจากปกติรายได้ที่รับมาจาก จ.เชียงใหม่ และส่งเข้าไปตามออเดอร์ ที่สั่งมาจากฝั่งจ.เมียวดี จะได้วันละถึง 10,000 บาท
หลังจากเกิดการสู้รบในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการปิดด่าน และไม่สามารถส่งออกดอกไม้จากฝั่งไทย ไปให้ลูกค้าได้ ตอนนี้เหลือเพียงยอดขายรายวันอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท หลังหักค่าเช่าที่วันละ 300 บาท และค่าอื่น ๆ ก็แทบจะไม่เหลือกำไร จึงต้องนำเงินเก็บสะสมออกมาใช้ต่อทุนและยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อไหร่
ส่วน บี แม่ค้าขายมะม่วงส่งออก ชาวกะเหรี่ยงโปว์ ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบเช่นกัน เปิดเผยว่า ปกติจะมีคำสั่งซื้อมาจากฝั่งเมียวดี ร้านของต้นนำมะม่วงมาลงขายวันละ 4 ตัน จะขายหมดในเวลา 2 วัน ทั้งหน้าร้านและจะมีพ่อค้าแม่ค้าชาวพม่า เดินทางข้ามด่านจาก จ.เมียวดี มารับถึงที่
ผลผลิตการเกษตรต้องชะงักที่ตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก หลังมีการสู้รบใน จ.เมียวดี และส่งข้ามไปขายไม่ได้
ผลผลิตการเกษตรที่เตรียมส่งไปฝั่งเมียนมา ได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังมีการปิดด่านสะพานมิตรภาพ 1
แต่หลังจากเกิดการสู้รบและปิดด่านแม่สอด ส่งผลให้มะม่วงและมะพร้าว ที่ร้านของเธอ 1 สัปดาห์ ก็ยังขายไม่หมด และเน่าเสีย เพราะลูกค้าจากฝั่งเมียนมา ไม่สามารถเดินทางข้ามมารับสินค้าได้ จึงต้องนำไปทิ้งทั้งหมด
ชาวบ้านยังคงมาจับจ่ายสินค้าสด ในตลาดริมเมย แต่ก็นับว่าบางตา เมื่อเทียบกับก่อนมีการสู้รบ
ด้านผู้คนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของ ในตลาดบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปกติในช่วงเช้า บริเวณนี้ จะเต็มไปด้วยชาวพม่ากว่า 90 % ที่เดินทางมาจับจ่ายและซื้อสินค้าโดยเฉพาะ ผลไม้ ที่จะนำไปขายต่อฝั่ง จ.เมียวดี โดยตนอยากให้ยุติการสู้รบกันและให้ด่านแม่สอด กลับมาเปิดได้ตามปกติ ตลาดจะได้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม
เรื่อง-ภาพ : อดิศร ฉาบสูงเนิน ช่างภาพข่าวอาวุโส ไทยพีบีเอส